มู ซกฮัว รองหัวหน้าพรรคกู้ชาติกัมพูชา (CNRP) พรรคฝ่ายค้านที่ถูกยุบพรรคไม่กี่เดือนก่อนการเลือกตั้ง และนักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชนคนสำคัญของกัมพูชา ถูกห้ามเข้าประเทศไทย ตามคำร้องของรัฐบาลของ ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา หลังจากที่เธอเดินทางกลับจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ของมาเลเซียเมื่อวันที่ 20 ต.ค.ที่ผ่านมา
มู ซกฮัวกล่าวว่าถูกตำรวจไทยกักตัวไม่ให้ผ่านต.ม. และห้ามออกจากสนามบิน โดยบอกกับเธออย่างสุภาพว่า เธอถูกแบนไม่ให้เข้าประเทศไทย โดยไม่บอกเหตุผล โดยเธอกล่าวว่า เห็นได้ชัดว่าทางการไทยไม่ต้องการจับกุมเธอรัฐบาลกัมพูชาต้องการ ทางการไทยจึงส่งตัวกลับไปที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ของมาเลเซียแทน
หลังจากมีคำสั่งยุบพรรคไปเมื่อปี 2017 และแบนไม่ให้สมาชิกพรรคเกี่ยวข้องกับการเมือง มู ซกฮัวได้ลี้ภัยทางการเมืองเข้ามาในไทย แต่สำนักข่าว Fresh News Asia สื่อของทางการกัมพูชาระบุว่า กระทรวงต่างประเทศของกัมพูชาได้ส่งหมายจับสม รังสี หัวหน้าพรรค CNRP มู โซชัว และนักการเมืองกัมพูชาอีกหลายคน ไปให้ประเทศสมาชิกอาเซียนเมื่อเดือนก่อน แต่มีเพียงลาวเท่านั้นที่ตอบรับว่าจะห้ามไม่ให้สม รังสีเข้าประเทศ
มู ซกฮัวเปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ เธอมีแผนที่จะเดินทางไปยังกรุงจาการ์ตาของอินโดนีเซียต่อ แต่เมื่อถูกทางการไทยห้ามเข้าประเทศ จึงตัดสินใจเดินทางไปสหรัฐฯ แทนที่จะเสี่ยงถูกส่งตัวกลับจากอินโดนีเซียอีก อย่างไรก็ตาม โฆษกกระทรวงต่างประเทศของอินโดนีเซียปฏิเสธที่จะตอบคำถามผู้สื่อข่าวว่า มู โซชัวจะถูกส่งกลับหรือไม่ โดยตอบแต่เพียงว่า ไม่รู้เกี่ยวกับสถานการณ์ของมู โซชัวเลย
การส่งตัวมู ซกฮัวกลับไปที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ แสดงให้เห็นว่าไทยและประเทศสมาชิกอาเซียนไม่ยินดีที่จะยืนหยัดเพื่อสิทธิมนุษยชนและแสดงให้เห็นการถดถอยของประชาธิปไตยในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ฟิล โรเบิร์ตสัน รองผู้อำนวยการฮิวแมนไรท์วอทช์ ประจำภูมิภาคเอเชียกล่าวว่า เป็นเรื่องที่ไม่อาจคาดเดาได้ว่า ทำไมทางการไทยจึงห้ามไม่ให้มู ซกฮัวเข้าประเทศหรือมองว่าเธอเป็นภัยคุกคามความมั่นคง แต่ทางการไทยรู้ว่าจะถูกนานาชาติกดดัน หากจับกุมมู โซชัวและสมาชิกพรรค CNRP คนอื่นๆ ตามหมายจับของรัฐบาลกัมพูชา จึงพยายามจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการเมืองภายในกัมพูชา ด้วยการไม่อนุญาตให้มู โซชัว เข้าประเทศ แต่ไม่จับกุมเธอ
ก่อนหน้านี้ สม รังสีได้ประกาศว่า เขาจะเดินทางกลับกัมพูชาในวันที่ 9 พ.ย.นี้ เพื่อนำการประท้วงต่อต้านการข่มขู่จะใช้ความรุนแรงของรัฐบาลฮุน เซนและการใช้กองทัพเข้าแทรกแซง
ด้านมู ซกฮัวกล่าวว่า เธอและสมาชิกพรรค CNRP คนอื่นๆ พยายามหาทางกลับไปกัมพูชาในวันที่ 9 พ.ย. ไม่ว่าจะเป็นการบินตรงจากประเทศสมาชิกอาเซียนอื่นๆ หรือเดินทางทางบกจากไทยข้ามไปกัมพูชา
มู ซกฮัวกล่าวว่า พวกเขาต้องการใช้ไทยเป็นทางผ่านเท่านั้น ไม่ได้ต้องการสร้างความเดือดร้อนให้ไทย อีกทั้งยังกล่าวว่า เมื่อฮุน เซนบอกว่าจะใช้กองทัพสังหารประชาชนของตัวเอง ทั่วโลกควรต้องเรียกร้องให้ฮุน เซนถอนคำพูด และรับรองความมั่นคงปลอดภัยของประชาชน แต่ทั่วโลกกลับเงียบ
ด้านโมโนวิทยา เกิม ลูกสาวของเกิม เสิกขา อดีตหัวหน้าพรรค CNRP วิจารณ์ว่า สม รังสีและสมาชิกพรรค CNRP อีกหลายคนไม่ได้วางแผนจะกลับไปกัมพูชาจริง แต่ทำแคมเปญที่จะแสดงให้เห็นว่า ยังมีคนสนับสนุนพรรค CNRP อยู่เท่านั้นเอง
ความเห็นของโมโนวิทยาแสดงให้เห็นถึงความแตกแยกภายในฝ่ายต่อต้านรัฐบาล ซึ่งยิ่งทำให้ฮุน เซนเข้มแข็ง อีกทั้งยังสะท้อนทัศนคติของฝ่ายต่อต้านรัฐบาลบางส่วนที่รู้สึกว่า ในขณะที่ประชาชนชาวกัมพูชาทั่วไปถูกจับกุมคุมขังโดยรัฐบาลฮุน เซน แต่สม รังสี และมู ซกฮัว กลับสัญญาให้ในสิ่งที่ตัวเองทำไม่ได้อย่างการกลับประเทศไปสู้เพื่อประชาธิปไตย
ที่มา : The Sydney Morning Herald, VOA Cambodia