ต่างประเทศ
ตัวประกันอิสราเอลดับ 7 ราย ฮามาสอ้างเหตุยิวทิ้งบอมใส่นักรบกลุ่ม
อย่างไรก็ดี คำกล่าวอ้างของฮามาสในครั้งนี้ยังไม่สามารถได้รับการยืนยันจากข้อมูลที่เป็นอิสระได้ และยังไม่มีความชัดเจนในทันทีว่า กลุ่มผู้เสียชีวิตเหล่านี้เป็นหนึ่งในกลุ่มตัวประกัน 31 คนที่อิสราเอลเชื่อว่าเสียชีวิตไปแล้วหรือไม่ ในขณะที่ตอนนี้ยังไม่มีความเห็นจากทางการอิสราเอล และกลุ่มฮามาสไม่ได้ให้แสดงหลักฐานที่เป็นรูปธรรมต่อคำกล่าวอ้างดังกล่าว
ก่อนหน้านี้ กลุ่มฮามาสได้จับตัวประกันไปจากอิสราเอล 253 คน จากการเปิดฉากโจมตีพื้นที่ทางตอนใต้ของอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ต.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งได้คร่าชีวิตผู้คนไปประมาณ 1,200 คน ต่อมาอิสราเอลได้ตอบโต้ด้วยการโจมตีทางอากาศและภาคพื้นดินขนาดใหญ่เพื่อทำลายกลุ่มฮามาส ส่งผลให้มีชาวปาเลสไตน์มากกว่า 30,000 คนถูกสังหารในฉนวนกาซา ในขณะที่สหประชาชาติออกการเตือนถึงภาวะอดอยากที่กำลังจะเกิดขึ้นในพื้นที่ทางตอนเหนือของฉนวนกาซา
ในเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา กลุ่มฮามาสได้ปล่อยตัวประกัน 105 คน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งเป็นไปตามข้อตกลงหยุดยิงชั่วคราวกับอิสราเอล เพื่อแลกกันกับการที่อิสราเอลได้ปล่อยตัวนักโทษชาวปาเลสไตน์ 240 คน ทั้งนี้ อิสราเอลกล่าวว่าในขณะนี้ยังมีตัวประกันมากกว่า 100 คนที่ยังคงถูกจับอยู่ในฉนวนกาซา
อย่างไรก็ดี ไม่มีการยืนยันรายงานการเสียชีวิตของตัวประกันดังกล่าวว่าเกิดขึ้นเมื่อใด
ในแถลงการณ์ที่เผยแพร่ในบัญชีเทเลแกรมของกลุ่มกองพลน้อยกัสซัม ซึ่งเป็นกลุ่มติดอาวุธของกลุ่มฮามาส อาบู โอเบดา โฆษกของกลุ่ม ได้ออกมาแสดงความเห็นในเชิงว่าฮามาสยังคงสนใจในการเจรจาข้อตกลงกับอิสราเอลที่จะปล่อยตัวประกันเพื่อแลกกับนักโทษที่อิสราเอลจับเอาไว้
“เรายืนยันว่าราคาที่เราจะใช้เพื่อแลกกับนักโทษที่ยังมีชีวิตอยู่ 5 หรือ 10 คนนั้นเป็นราคาเดียวกับที่เราจะต้องแลกกับนักโทษทั้งหมด หากปฏิบัติการทิ้งระเบิดของศัตรูไม่ได้คร่าชีวิตพวกเขา” โอเบดากล่าว
ทั้งนี้ การปล่อยตัวประกันเป็นหนึ่งในประเด็นสำคัญของการเจรจาหยุดยิงในกาตาร์ ซึ่งดำเนินมาเป็นเวลานานหลายเดือนแล้ว โดยการเจรจาดังกล่าวกำลังพยายามหาทางหยุดยิงระยะสั้น เพื่อให้ตัวประกันได้รับการปล่อยตัวออกมาเป็นระลอกเล็กๆ โดนจะมีพลเรือนและทหารผู้หญิงที่จะได้รับการปล่อยตัวก่อน ในทางกลับกัน นักโทษชาวปาเลสไตน์ ซึ่งบางคนถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานก่อการร้ายร้ายแรง จะได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำของอิสราเอล
ในการระหว่างการเจรจากัน มีการเสนอข้อตกลงให้ทหารอิสราเอลถอนทัพออกจากฉนวนกาซา และชาวปาเลสไตน์จำนวน 1.8 ล้านคนที่ต้องพลัดถิ่นอันเป็นผลมาจากการสู้รบตั้งแต่เดือน ต.ค.ปีที่แล้ว อาจสามารถกลับสู่บ้านเกิดของตัวเองในพื้นที่ทางตอนเหนือได้
อย่างไรก็ดี มีความกังวลว่าการประกาศการเสียชีวิตของตัวประกันอิสราเอล ควบคู่ไปกับการเสียชีวิตของประชาชนปาเลสไตน์อย่างน้อย 112 รายระหว่างการส่งความช่วยเหลือในฉนวนกาซาเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (29 ก.พ.) อาจขัดขวางการเจรจาข้างต้นที่กำลังดำเนินไป
กลุ่มฮามาสกล่าวหาว่าอิสราเอลได้ทำการยิงพลเรือน แต่อิสราเอลกล่าวว่าผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่จากจำนวน 112 ราย เกิดจากการเหยียบทับกันจนตายหลังจากอิสราเอลทำการยิงเตือน ทั้งนี้ ภายหลังจากเกิดเหตุการณ์การเสียชีวิตของกลุ่มชาวปาเลสไตน์เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา กลุ่มฮามาสได้ออกมาเตือนว่าการเจรจาในกาตาร์เพื่อพยายามหยุดยิงรอบใหม่ควบคู่ไปกับการปล่อยตัวประกันชาวอิสราเอลที่กาตาร์พยายามดำเนินการอยู่อาจตกอยู่ในความเสี่ยงที่จะล้มเหลวได้
เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมานี้ โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวว่า เขาหวังว่าการหยุดยิงชั่วคราวจะสามารถทำการตกลงกันได้ภายในต้นสัปดาห์หน้า แต่ความหวังดังกล่าวกำลังริบหรี่ลงเรื่อยๆ ทั้งนี้ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ไบเดนประกาศว่า "ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า" สหรัฐฯ จะมีส่วนร่วมในการส่งอาหารทางอากาศไปยังฉนวนกาซา
“ผู้บริสุทธิ์ติดอยู่ในสงครามอันเลวร้าย ไม่สามารถเลี้ยงดูครอบครัวได้ และคุณเห็นการตอบสนองเมื่อพวกเขาพยายามขอความช่วยเหลือ” ไบเดนกล่าว “เราจำเป็นต้องทำมากกว่านี้ และสหรัฐฯ จะทำมากกว่านี้”
การประกาศของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ดังกล่าว มีขึ้นหนึ่งวันหลังจากที่นักบินกองทัพอากาศจอร์แดนทิ้งเวชภัณฑ์และอาหารน้ำหนัก 33 ตันลงในฉนวนกาซา ทั้งนี้ ตามรายงานของหนังสือพิมพ์ The Washington Post เครื่องบินของจอร์แดนยังได้ทิ้งความช่วยเหลือจากสหรัฐฯ และสหราชอาณาจักร ในขณะที่เครื่องบินจากฝรั่งเศส อียิปต์ และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ได้เข้าร่วมในปฏิบัติการที่คล้ายกันนี้
การทิ้งความช่วยเหลือทางอากาถูกวิพากษ์วิจารณ์จากกลุ่มช่วยเหลือว่ามีค่าใช้จ่ายสูงและไม่เพียงพอ
“Oxfam ไม่สนับสนุนการส่งทางอากาศของสหรัฐฯ ไปยังฉนวนกาซา ซึ่งส่วนใหญ่จะทำหน้าที่บรรเทาความรู้สึกผิดของเจ้าหน้าที่อาวุโสของสหรัฐฯ ซึ่งนโยบายของเขามีส่วนทำให้เกิดความโหดร้ายที่ดำเนินอยู่และความเสี่ยงต่อภาวะอดอยากในฉนวนกาซา” กลุ่ม Oxfam ซึ่งเป็นองค์กรการกุศลกล่าว
“ในขณะที่ชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซาถูกกดดันจนสุดขอบ แต่การละทิ้งความช่วยเหลือจำนวนเล็กน้อยในฉนวนกาซาโดยไม่มีแผนในการแจกจ่ายอย่างปลอดภัยนั้นไม่ได้ช่วยอะไร และเป็นการเสื่อมเสียอย่างลึกซึ้งต่อชาวปาเลสไตน์” Oxfam ระบุ พร้อมระบุเสริมว่าสหรัฐฯ ควรดำเนินการเพื่อ "ลดการส่งอาวุธไปยังอิสราเอล" แทน
นอกจากนี้ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา นิการากัวได้ยื่นฟ้องต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ โดยเรียกร้องให้ศาลหยุดเยอรมนีไม่ให้ความช่วยเหลือทางทหารแก่อิสราเอล เนื่องจากเยอรมนีเป็นหนึ่งในผู้ส่งออกอาวุธรายใหญ่ที่สุดไปยังอิสราเอลร่วมกับสหรัฐฯ
ที่มา:
