ไม่พบผลการค้นหา
ผู้สื่อข่าวชายชาวจีนหายตัวไป หลังจากการรายงานสถานการณ์การระบาดของไวรัสโคโรนาแบบเกาะติดอย่างจริงจังในเมืองอู่ฮั่น ทั่วโลกตั้งข้อสังเกต อาจเป็นอีกหนึ่งกรณีการพยายามปิดปากประชาชนจากทางการจีน

​สำนักข่าว The Guardian รายงานว่า เชน ชิวชื่อ (Chen Qiushi) ผู้สื่อข่าวด้านสิทธิมนุษชนชาวจีนได้หายตัวไปตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (6 ก.พ.) โดยเป็นวันเดียวกับที่มีการรายงานข่าวว่า นายแพทย์หลี่เหวินเลี่ยง ผู้ซึ่งเป็นหนึ่งในแพทย์กลุ่มแรกที่ออกมาเตือนว่ามีการแพร่ระบาดรอบใหม่ในเมืองอู่ฮั่น ได้เสียชีวิตลงจากไวรัสโคโรนาด้วยวัยเพียง 34 ปี 

เชน ชิวชื่อ คือผู้สื่อข่าวที่ทำการเกาะติดสถานการณ์การระบาดของไวรัสโคโรนาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่วันที่ 23 ม.ค.เป็นต้นมา พร้อมทำคลิปวิดีโอเพื่อรายงานข้อมูลต่างๆ ให้ทั่วโลกได้รับทราบโดยไม่มีความเกรงกลัวต่อความปลอดภัยของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นโอกาสในการรับเชื้อที่สูงมาก และการจัดการจากทางการจีน โดยเขามียอดผู้ติดตามในทวิตเตอร์ราว 200,000 คน และในยูทูบอีกกว่า 445,000 คน

เชนเคยกล่าวไว้ในวิดีโอการรายงานข่าวของตัวเองว่า "ผมก็รู้สึกกลัว เบื้องหน้าของผมคือไวรัส ขณะที่ด้านหลังของผมคือเจ้าหน้าที่รัฐ ผู้มีอำนาจทางกฎหมายของจีน ตราบใดที่ผมยังมีชีวิตอยู่ในเมืองนี้ ผมจะรายงานข่าวต่อไป ผมจะรายงานทุกสิ่งที่ผมได้ยินและเห็น" 

นอกจากนั้นเขายังได้เดินทางไปยังโรงพยาบาลต่างๆพร้อมแชร์ภาพบรรยากาศของสถานที่การรักษาที่ไม่เหมาะสมกับผู้ติดเชื้อให้โลกได้รับรู้ เนื่องจากมีสภาพไม่ต่างอะไรกับสถานพยาบาลที่ใช้เพื่อการรักษาผู้ประสบภัยจากภัยพิบัติชั่วคราว พร้อมได้กับพูดคุยกับบุคลากรทางการแพทย์ ซึ่งยืนยันว่านอกจากหน้ากากอนามัยไม่เพียงพอแล้ว อุปกรณ์ต่างๆ ชุดปลอดโรค ไปจนถึงการตรวจวินิจฉัยโรคก็ไม่เพียงพอด้วย โดยเขาย้ำว่า 'ทางเดียวที่ทำได้ก็คือต้องแยกตัวเองออกมาจากผู้ป่วยและซ่อนตัวอยู่ในบ้าน'

คำถามสุดท้ายที่เขาได้รับจาก Bloomberg ก่อนหายตัวไปคือ "คุณห่วงความปลอดภัยของตัวเองหรือไม่"


"ผมไม่กลัวตายด้วยซ้ำ คุณคิดว่าผมจะกลัวพรรคคอมมิวนิสต์จีนหรอ" เชนกล่าวทั้งน้ำตา


ในวันที่ 6 ก.พ. เชนเดินทางไปยังโรงพยาบาลแห่งหนึ่งก่อนที่ทั้งเพื่อนและครอบครัวจะไม่สามารถติดต่อกับเขาได้อีก โดยแม่ของเชนกล่าวในคลิปวิดีโอที่ถูกโพสต์ลงบนทวิตเตอร์ของเชนว่า "ฉันคือแม่ของเชน ชิวชื่อ ได้โปรด เพื่อนๆทั้งหลายบนโลกออนไลน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนในอู่ฮั่น ได้โปรดช่วยฉันตามหาลูกชายและหาคำตอบให้ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขากันแน่"

เหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางความล้มเหลวของรัฐบาลจีนที่จะควบคุมอารมณ์โกรธของสาธารณะต่อการควบคุมการระบาดของไวรัสโคโรนาและเหตุการณ์เสียชีวิตของ นายแพทย์หลี่เหวินเลี่ยง พร้อมเรียกร้องไม่ให้กรณีของ เชน ต้องจบลงเหมือนกรณีของแพทย์ผู้ออกมาเตือนว่ามีการแพร่ระบาดของไวรัสรอบใหม่ในเมืองอู่ฮั่นอีก