ไม่พบผลการค้นหา
ตำรวจไซเบอร์ทลายแก๊งคนไทยเชื้อสายจีน เช่าห้องโรงแรมย่านรัชดาเปิดธุรกิจซื้อขายบัญชีม้า บุกรวบตัวได้คาห้อง 13 ราย เผยมาจากต่างจังหวัดเพื่อขายบัญชีหลังติดต่อผ่านเฟซบุ๊ก

วันจันทร์ที่ 18 ส.ค.68 เวลา 10.00 น. ณ ห้องไทรเงิน โรงแรมกระบี่รีสอร์ท ต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ จ.กระบี่ นำโดย พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท., พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ สุดสงวน รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ รอง ผบช.สอท. และ พล.ต.ต.ศุภกร ผิวอ่อน ผบก.สอท.5 พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมแถลงข่าว ตำรวจไซเบอร์ทลายแก๊งคนไทยเชื้อสายจีน เช่าห้องโรงแรมย่านรัชดาเปิดธุรกิจซื้อขายบัญชีม้า บุกรวบตัวได้คาห้อง 13 ราย เผยมาจากต่างจังหวัดเพื่อขายบัญชีหลังติดต่อผ่านเฟซบุ๊ก

สืบเนื่องจาก กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเสษ บก.สอท.5 ได้สืบสวนพบการลักลอบซื้อขายบัญชีม้าผ่านแอปพลิเคชันเฟซบุ๊ก ต่อมาได้พบข้อมูลว่า กลุ่มคนร้ายได้มีการนัดซื้อขายบัญชีม้ากันที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ย่านรัชดา ถนนประชาราษฎร์บำเพ็ญ แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กทม. โดยกลุ่มบุคคลที่รับซื้อขายบัญชีม้านั้นเป็นวัยรุ่นไทยเชื้อสายจีน นำโดย นายธวัชวงค์ฯ อายุประมาณ 20 ปี

ต่อมา พ.ต.อ.อุกฤช ศรีนิติวรวงศ์ ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.5 ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจไปซุ่มดูบริเวณโรงแรมดังกล่าว กระทั่งพบนายธวัชวงค์ฯ บุคคลตามเป้าหมายกำลังเดินลงมาที่ชั้นล่างของโรงแรม จึงได้แสดงตัวเข้าตรวจค้นและซักถาม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบถามจนเจ้าตัวยอมรับว่า ตนเองกับพวกพักอยู่ที่ห้องพักชั้น 3 ของโรงแรม ได้มีการนัดหมายกับคนที่มาขายบัญชีม้ากันที่โรงแรม โดยเปิดห้องพักไว้รอให้คนที่มาขายบัญชีม้าพักอยู่อีกห้องหนึ่งในชั้นเดียวกัน

ต่อมา นายธวัชวงค์ฯ ได้ยอมพาเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปตรวจค้นที่ห้องพักทั้ง 2 ห้องดังกล่าว โดยห้องแรกซึ่งเป็นห้องที่นายธวัชวงค์ฯ พักอาศัย ถายในห้องพบบุคคลจำนวน 6 คน อยู่ภายในห้อง จากการสอบถามทราบว่า มีจำนวน 3 คน ทำหน้าที่คัดกรองบัญชีธนาคารจากคนที่มาขายให้พร้อมบัตรเอทีเอ็ม ในราคาบัญชีละ 4000 บาท ส่วนอีกคน ทำหน้าที่ไปรับคนที่เดินทางมาขายบัญชีให้ จากนั้นพาไปพักที่ห้อง เพื่อให้คนที่คัดกรองติดต่อซื้อบัญชีธนาคาร ส่วนอีก 2 คนในห้องที่เหลือ กำลังมาเจรจาขายบัญชีของตนเองพอดี

ส่วนห้องที่ 2 พบ บุคคลจำนวน 7 ราย จากการสอบถาม ทุกคนยอมรับว่า แต่ละคนเดินทางมาจากต่างจังหวัด เพื่อมาขายบัญชีม้าที่เคยติดต่อซื้อขายกันบัญชีม้าผ่านทางเฟซบุ๊ก แล้วนัดหมายกันมาพบที่โรงแรมดังกล่าว โดยตกลงซื้อขายบัญชีธนาคารพร้อมบัตรเอทีเอ็มในราคา 4,000 บาท ต่อบัญชี ซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูลในโทรศัพท์ของแต่ละคน พบหลักฐานเป็นประวัติการสนทนากันจริง

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ตรวจยึดของกลางเป็นโทรศัพท์มือถือ จำนวน 13 เครื่อง และ สมุดบัญชีธนาคาร พร้อมบัตร ATM จำนวน 22 เล่ม โดยแจ้งข้อกล่าวหา ดังนี้

1. นาย ธวัชวงค์ อายุ 19 ปี (เชื้อสายจีน) ทำหน้าที่คัดกรองและรับซื้อบัญชี

2. นาย เจษฎา อายุ 21 ปี (เชื้อสายจีน) ทำหน้าที่คัดกรองและรับซื้อบัญชี

3. นาย หยิ่งชาว อายุ 17 ปี (เป็นบุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียน) ทำหน้าที่คัดกรองและรับซื้อบัญชี

4. นาย นาทณรงค์ อายุ 41 ปี ทำหน้าที่ รับคนที่เดินทางมาขายบัญชีเพื่อพาไปยังห้องพัก

ดำเนินคดีในข้อหา “ร่วมกันเป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือไขข่าวโดยประการใด ๆ เพื่อให้มีการซื้อ ขาย ให้เช่า หรือให้ยืมบัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่นใด”

ส่วนบุคคลอีกจำนวน 9 ราย ที่เดินทางมาขายบัญชีธนาคารและบัตร ATM โดนดำเนินคดีในข้อหา “เปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ของตน โดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตนหรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้อง หรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้หรือยืมใช้เลขหมายโทรศัพท์สำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ของตน ทั้งนี้ โดยประการที่รู้หรือควรรู้ว่า จะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่นใด”

นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการสืบสวนขยายผลไปยังผู้ร่วมขบวนการที่เกี่ยวข้องจนถึงระดับหัวหน้าผู้สั่งการ รวมทั้งกลุ่มบุคคลที่เคยมาขายบัญชีธนาคารให้ก่อนหน้านี้ เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป