นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ โพสต์ผ่านสื่อโซเชียลมีเดียเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2568 ว่า การ Grand compromise ให้เกิดรัฐบาลชุดนี้ จะ Grand opening กลุ่มพลังอนุรักษ์อำนาจนิยมในอนาคต
ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคเพื่อไทยถูก สว. ตีตกกลางสภา ทั้งที่สาระอยู่ตรงกลางระหว่างร่างภูมิใจไทยกับพรรคประชาชน ไม่มีข้อเสียหายใดๆ ที่จะรับไปทั้ง 3 ร่างแล้วดำเนินการต่อในชั้นกรรมาธิการ
ผมเห็นด้วยกับพรรคเพื่อไทยที่เดินหน้าโหวตร่างสีส้มเป็นร่างหลัก เพื่อยืนยันหลักการให้ สสร.ยึดโยงกับประชาชน แต่สิ่งที่น่ากังวลคือนัยที่ถูกส่งออกมาจากการโหวตวาระแรก
1.ชัดเจนว่าภูมิใจไทยต้องการร่างของตนเป็นร่างหลัก ท่าทีตอนเถียงกันเรื่องโหวตรอบ 2 จริงจังหนักมาก เมื่อสว.ตีร่างเพื่อไทยตก(ตามสูตรจะอ้างว่าเป็นดุลยพินิจ สว.) ก็เหลือร่างน้ำงินเดี่ยวๆกับร่างสีส้ม คงคิดว่าแบเบอร์ โหวตชนะแน่นอน
2.ผมเรียกร้องต่อพรรคประชาชนมาตลอดให้สร้างความชัดเจนกับภูมิใจไทย เช่น เสนอร่างร่วมกันเพื่อยืนยันเจตนารมย์ หารือแนวทางแล้วแถลงต่อประชาชน ทั้ง 2 พรรคจับมือกันไปคุยกับสว. ฯลฯ แต่ไม่มีการตอบสนอง เมื่อเกิดการโหวตแบบนี้ตั้งแต่ต้นก็มองได้ล่วงหน้าว่าในชั้นกรรมาธิการ จะมีข้อแตกต่างไปตลอดทาง
3.มีคนตั้งคำถามถึงบทบาทฝ่ายค้านที่อ่อนโยนของพรรคส้ม
4.ถ้าแก้รัฐธรรมนูญล้มเหลว พรรคน้ำเงินจะบอกว่าได้เริ่มแล้ว แต่ไม่ผ่านความเห็นชอบของรัฐสภา ถึงอย่างนั้นก็จะยุบสภาใน 4 เดือน ถือว่าทำตามสัญญา
5.การ Grand compromise ให้เกิดรัฐบาลชุดนี้ จะนำไปสู่การ Grand opening กลุ่มพลังอนุรักษ์อำนาจนิยมในอนาคต หากแก้รัฐธรรมนูญซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของ MOA ไม่สำเร็จ ไม่รู้เป็นความรับผิดชอบของใคร