นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย - กัมพูชา (ศบ.ทก.) ชี้แจงเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2568 กรณีมีกระแสข่าวที่อ้างว่า นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี จะให้มีการรื้อลวดหนามตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา หลังการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (RBC) นั้น เป็น “ข่าวปลอม” ไม่มีมูลความจริงแต่อย่างใด ไม่มีความคิดจะรื้อ มีแต่ทยอยวางเพิ่มในเขตอธิปไตยของไทยอย่างต่อเนื่อง
ท้้งนี้ ข่าวดังกล่าวถูกปล่อยโดยบางเพจที่จงใจปั่นกระแส เพื่อเรียกยอดไลก์และยอดผู้ติดตาม ผ่านการบิดเบือนและสร้างเรื่องราวเท็จ อ้างว่ารัฐบาลจะเรียกประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ สมช.และมีการเสนอยกเลิกรั้วลวดหนามบริเวณชายแดนทั้งหมด ซึ่ง "ไม่เป็นความจริง" เนื่องจากสถานการณ์ชายแดนยังคงยึดตามข้อตกลงหยุดยิงหลังเที่ยงคืน28 กรกฎาคม คือ “อยู่ตรงไหน ให้อยู่ตรงนั้น” และไทยยังคงต้องรักษา อธิปไตยของไทย การล้อมรั้วลวดหนามจึงเป็นมาตรการที่จำเป็นต่อการยืนยันสิทธิ์ในเขตแดน พร้อมย้ำว่ารัฐบาลไทยจะไม่หวั่นไหวต่อการปลุกปั่นหรือการกดดันจากฝ่ายใด และขอยืนยันอีกครั้งว่ารัฐบาลจะไม่มีการรื้อรั้วลวดหนามในทุกเขตแดนที่วางไว้ตลอด7จังหวัดมีแต่ทำเพิ่ม
นายจิรายุ กล่าวต่อไปว่าศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย - กัมพูชา (ศบ.ทก.) ได้รับแจ้งจากฝ่ายกัมพูชาว่า ขอเลื่อนการประชุม RBC สมัยวิสามัญในส่วนของกองทัพภาคที่2 จากเดิมวันที่ 21 สิงหาคม 2568 ออกไปเป็นวันที่ 27 สิงหาคม 2568 เพื่อให้มีเวลาเตรียมการประชุมมากขึ้น ทั้งนี้ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้นำเรียน พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก ซึ่งไม่ขัดข้อง และเห็นชอบให้เลื่อนการประชุมตามที่กัมพูชาขอ
ทั้งนี้ กองทัพภาคที่ 2 ได้กำหนดการหารือใหม่ดังนี้
1) วันที่ 25–26 สิงหาคม 2568 : ประชุมกองเลขาฯ
2) วันที่ 27 สิงหาคม 2568 : ประชุม RBC สมัยวิสามัญ
3) สถานที่ประชุม : พื้นที่กึ่งกลางบริเวณจุดผ่านแดนถาวรช่องสะงำ นายจิรายุกล่าว