จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ สส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ระบุผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย แพลตฟอร์มX @jamornvivat วันนี้ (20 กันยายน 2568) ว่า
การตัดสินใจของพรรคเพื่อไทยที่จะไม่เข้าร่วมเป็นกรรมการในวิปฝ่ายค้านร่วมกับพรรคประชาชนไม่ได้หมายความว่าหน้าที่ฝ่ายค้านในฐานะตรวจสอบถ่วงดุลรัฐบาลจะอ่อนแอลงแต่อย่างใด
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ตั้งแต่พรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน มาจนถึงพรรคเพื่อไทยได้พิสูจน์แล้วว่าไม่ว่าจะอยู่ในบทบาทฝ่ายค้านหรือรัฐบาล เราต่างทำหน้าที่อย่างเต็มที่เสมอ แต่ครั้งนี้ สถานการณ์ทางการเมืองไม่ปกติ เพราะเรามีผู้นำฝ่ายค้านที่กลับยกมือสนับสนุนการจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย มีพรรคซึ่งมีเสียงสูงสุดในฐานะฝ่ายค้านกลับทำตัวเสมือนเป็น “องค์ประชุม” คอยประคับประคองรัฐบาลเสียงข้างน้อยชุดนี้ให้ไปต่อได้
ไม่ต้องห่วงครับ พรรคเพื่อไทยจะเดินหน้าทำหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างเต็มที่และชัดเจน ส่วนบางพรรคการเมืองที่ไม่รู้ว่าจะค้านหรือหนุน ครึ่งบกครึ่งน้ำ เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ครับ เช่นเดียวกับกรณี MOA ที่ในระยะเวลาไม่ถึงเดือน จาก 5 ข้อ ที่วาดฝันไว้ สุดท้ายเหลือเพียง 2 ข้อ คือเรื่องยุบสภาภายใน 4 เดือน และเรื่องที่พรรคประชาชนจะไม่มีตัวแทนในคณะรัฐมนตรี (ครม.)
ความระแวงต่อกันมันก่อตัวมาอย่างต่อเนื่อง เริ่มจากการเปลี่ยนญัตติไม่ไว้วางใจที่มีพรรคภูมิใจไทย มาเป็นอภิปรายนายกฯ แพทองธาร ชินวัตร คนเดียว ต่อเนื่องมาถึงดีลลับยกเสียงให้ตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย ซึ่งพรรคเพื่อไทยก็อ่านออกตั้งแต่วันแรกว่าข้อเสนอนี้ไม่ได้มีไว้ให้พรรคเพื่อไทย
ท้ายที่สุด ใครจะบอกว่าเป็นการหาทางออกให้ประเทศ ใครจะบอกว่าเป็นการตัดสินใจผ่าทางตันให้กับประเทศในวันที่นายกฯ แพทองธาร ถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้พ้นตำแหน่งนายกฯ คนไหนเชื่อก็ตามใจ แต่ผมไม่เชื่อ