ไม่พบผลการค้นหา
ชาวอำเภอภูกระดึง เกณฑ์ชาวบ้านช่วยกันแบกชิ้นส่วนอะไหล่แทรกเตอร์ขึ้นภูกระดึงเพื่อทำแนวป้องกันไฟป่า หลังประสานขอกองทัพ แต่มีค่าใช้จ่ายเฉพาะขนส่ง 3.5 ล้าน

จากสถานการณ์ไฟป่าที่อุทยานแห่งชาติภูกระดึง เมื่อวันที่ 16 ก.พ.ที่ผ่านมา ล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้เข้าดำเนินการและควบคุมไฟได้ทั้งหมดแล้ว มีพื้นที่เสียหายประมาณ 3,400 ไร่

หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นมติเลย รายงานข่าวว่า นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย และนายสมบัติ พิมพ์ประสิทธิ์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติภูกระดึง ได้มีการประชุมการแก้ไขปัญหาไฟป่า มีข้อสรุปต้องนำเครื่องจักรช่วยในการดับไฟ โดยได้ทำหนังสือถึง กองทัพบก เพื่อขอความอนุเคราะห์นำเฮลิคอปเตอร์ รุ่น MI 17 ขนรถแทรกเตอร์ จำนวน 2 คัน กระบะ 1 คัน และน้ำมันเชื้อเพลิงขึ้นไปยอดภูกระดึง เพื่อไว้ทำแนวกันไฟ และใช้ในงานบนยอดภูกระดึง 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ทางจังหวัดเลยได้ประสานไปทางกองทัพบก ทางกองทัพประสานกลับมาว่า การนำรถแทรกเตอร์ขึ้นภูกระดึง จะมีค่าใช้จ่ายการเสื่อมสภาพของเครื่องบิน ยังไม่รวมค่าน้ำมันที่ทางจังหวัดจะเป็นส่วนที่รับผิดชอบ โดยคิดค่าใช้จ่ายในเฉพาะขนส่งจำนวน 3.5 ล้านบาท ซึ่งทางจังหวัดและอุทยานฯ ไม่อาจที่จะหางบประมาณการขนส่งครั้งนี้ได้ จึงได้ยุติการใช้เฮลิคอปเตอร์ดังกล่าว


85256076_1020875861639376_2526407442632278016_o.jpg

ทั้งนี้ ในภายหลังกลุ่มคนรักภูกระดึง รวมทั้งผู้ใหญ่บ้านกำนัน ในเขตอำเภอภูกระดึง ได้เข้าหารือกับนายภูริวัจน์ โชตินพรัตน์ นายอำเภอภูกระดึง โดยช่วยกันจ้างให้ช่างแยกชิ้นส่วนรถแทรกเตอร์ และจะช่วยกันแบกชิ้นส่วนอะไหล่แทรกเตอร์ขึ้นภูกระดึง โดยจะขอเกณฑ์ลูกบ้าน จิตอาสา อพปร. ช่วยกันนำชิ้นส่วนทั้งหมดแบกขึ้นภูกระดึงเอง เนื่องจากเหตุการณ์ไฟไหม้ภูกระดึงครั้งนี้ชาวบ้านได้พบเห็นความยากลำบากในการดับไฟของเจ้าหน้าที่ ที่ต้องดับไฟตลอดทั้งคืน เป็นเวลาเกือบสัปดาห์ โดยใช้แต่แรงกาย การอยู่กินแบบก็ยากลำบาก แต่ละวันต้องเดินดับไฟเป็นระยะหลายสิบกิโล ทั้งอันตราย หน้าผา และเขาที่สูงชั้น

ด้านนายภูริวัจน์ โชตินพรัตน์ นายอำเภอภูกระดึง เปิดเผยว่าในเรื่องนี้ตนจะขอปรึกษารายงานต่อนายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย รวมทั้งนายสมบัติ พิมพ์ประสิทธิ์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติภูกระดึง ถึงความเป็นไปได้ เนื่องจากรถแทรกเตอร์มีขนาดใหญ่ และที่สำคัญเรื่องช่างที่จะมาแยกชิ้นส่วนและประกอบจะทำได้หรือไม่