ไม่พบผลการค้นหา
ครูใหญ่-อรรถพล ยันเดินหน้าแก้ 112 โยนเข้าสภาฯพิสูจน์จุดยืนนักการเมือง ชวนมวลชนชุมนุมใหญ่ 31 ตุลาคมนี้ พร้อมจัดแอ็คชั่นหน้าศาล ก่อน 12 แกนนำเข้าฟังตรวจพยานคดีชุมนุมหน้าสถานทูตเยอรมัน 'เบนจา อะปัญ' เตรียม conference

อรรถพล บัวพัฒน์ หรือ ครูใหญ่ พร้อมด้วย ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล หรือ มายด์ , กรกช แสงเย็นพันธ์ แกนนำราษฎร และผู้ถูกกล่าวหารวม 12 คน เดินทางมาที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ตามที่ศาลนัดพร้อมตรวจพยานหลักฐานคดีชุมนุมอ่านแถลงการณ์หน้าสถานเอกอัครราชทูตเยอรมนีประจำประเทศไทย เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2563 ซึ่งมีผู้ถูกกล่าวหาทั้งสิ้น 13 คน 

อย่างไรก็ตาม เบนจา อะปัญ แกนนำแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุมถูกคุมขังในคดีคาร์ม็อบ ไม่สามารถเดินทางมาศาลได้ ทั้งหมดถูกกล่าวหาข้อหาหนักคือตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 ว่าด้วยการยุยงปลุกปั่น และมาตรา 112 หมิ่นประมาท ดูหมิ่นหรือแสดงความอาฆาตมาดร้าย กษัตริย์ ,ราชินี,รัชทายาทและผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์


เดินหน้าการยกเลิกมาตรา 112

อรรถพล ให้สัมภาษณ์ว่า ไม่มีความกังวลในวันนี้ กระบวนการทั้งหมดอาจใช้เวลาทั้งวัน และจะได้พบหน้าเบนจา ผ่าน video conference เป็นครั้งแรก โดยขอให้ประชาชนที่ร่วมชุมนุมใหญ่วันที่ 31 ตุลาคมนี้ ที่แยกราชประสงค์ เพื่อเดินหน้าการยกเลิกมาตรา 112 ซึ่งคดีชุมนุมหน้าสถานทูตเยอรมัน ถือเป็นครั้งแรกที่ผู้มีอำนาจเริ่มมีการแจกคดีมาตรา 112 กับประชาชนย้อนหลัง 

อรรถพล ยืนยันว่า สังคมไทยจำเป็นต้องยกเลิกมาตรา 112 โดยแนวทางรวบรวมรายชื่อประชาชนเสนอกฎหมายเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเป็นแนวทางที่ประนีประนอมที่สุดแล้วพร้อมทวงถามความกล้าหาญและเรียกร้องการทำหน้าที่ของ ส.ส.ในสภาฯ และพรรคการเมือง เพราะประเด็นเป็นวาระแห่งชาติ

ถ้าพรรคการเมืองใดไม่ตอบรับเจตจำนงค์ของประชาชนก็จะไม่มีที่ยืน แต่ในด้านกลับพรรคการเมืองที่มีจุดยืนชัดเจนต่อเรื่องนี้ในการยกเลิกมาตรา 112 ก็อาจจะถูกผู้มีอำนาจยุบพรรคได้เช่นกัน แต่ไม่มีทางเลือกอื่น เพราะนักการเมืองและพรรคการเมืองจะมาทำหน้าซื่อตาใส ไม่รับรู้ปัญหาหรือไม่รู้ร้อนรู้หนาวในเรื่องนี้ไม่ได้ และขบวนการเคลื่อนไหวราษฎรจะผลักดันเรื่องนี้ให้ถึงที่สุด


เหล่านักกิจกรรมแสดงละคร

นอกจากนี้ ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ตั้งแต่เวลาประมาณ 10:00 น. วันนี้ ยังมีนักกิจกรรมจากกลุ่ม ศาลายาเพื่อประชาธิปไตย ,กลุ่ม Supporter Thailand, กลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย หรือ DRG, กลุ่ม Freeyouth หรือเยาวชนปลดแอก ได้ร่วมกันจัดกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์เพื่อเรียกร้องให้ปล่อยนักโทษทางการเมืองและคืนสิทธิการประกันตัวให้ผู้ถูกกล่าวหาด้วย 

 โดยมีการแสดงละครเชิงสัญลักษณ์สะท้อนการบังคับและกดปราบประชาชนด้วยอำนาจบางอย่าง รวมถึงมีการตั้งเวทีปราศรัยขนาดย่อมหน้าศาลอาญากรุงเทพใต้ เรียกร้องสิทธิการประกันตัวนักโทษคดีการเมือง โจมตีเนื้อหาและการบังคับใช้กฎหมายที่ไม่เป็นธรรม รวมถึงการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมด้วย