วันที่ 3 ธ.ค. 2564 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ระบุความคืบหน้าการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ว่า ต้องดูสถานการณ์ที่เหมาะสม ทั้งเรื่องความสงบเรียบร้อย ในบ้านเมือง ความขัดแย้งต่างๆ ต้องลดลง เพราะต้องห่วงเรื่องของความมั่นคง การมีเสถียรภาพของบ้านเมือง ที่ต้องมาก่อน ดังนั้นเมื่อมีความพร้อมก็ดำเนินการจัดการเลือกตั้ง ซึ่งสุดแล้วแต่ของประชาชนจะเลือกใครเข้ามาดำรงตำแหน่งนี้ ซึ่งการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในปี 2565 และต้องอยู่ภายใต้สถานการณ์ที่มีความพร้อม สงบ เรียบร้อย หากเกิดความขัดแย้งจะไม่เกิดประโยชน์ใดๆ ทั้งสิ้น 

ส่วนกรณีที่ตนเองย้ำ ว่าเป็นนายกรัฐมนตรี ตามกรอบกฏหมายนั้น นายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่า เพราะยังอยู่ในตำแหน่ง และการเป็นรัฐบาล จะยาวถึงเดือน มี.ค. 2566 ซึ่งถ้าบ้านเมืองสงบสุขก็จำเป็นต้องอยู่ให้ครบวาระ ขออย่ามีอุบัติเหตุทางการเมืองขึ้นมา จนเกิดความเสียหาย เพื่อบ้านเมืองเดินหน้าต่อไปได้ ซึ่งตนเองได้ทำหลายโครงการไว้บ้างแล้ว ซึ่งไม่ได้ทำเพื่อวันนี้ หรือ คะแนนเสียงของตนเอง แต่ทำเพื่อประชาชน และประเทศชาติ โดยมีการวางแผนงานไว้ในอนาคตแล้ว ในหลายโครงการ จึงอยากให้เปรียบเทียบและเข้าใจในเรื่องนี้ และยืนยันว่าขณะนี้ ตนเองเป็นนักการเมืองอย่างเต็มตัวแล้ว เนื่องจากเป็นนายกรัฐมนตรี ที่มาจากการเลือกตั้ง 

ส่วนจะตัดสินใจลง สมัครเลือกตั้งในแบบบัญชีรายชื่อหรือไม่นั้น ขอให้เป็นเรื่องของอนาคต และช่วงใกล้เลือกตั้ง รวมถึงกระแสข่าวจะลง ส.ส.เขตในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เลอะเทอะ และย้ำว่า ยังไม่ถึงเวลา ขอสื่อมวลชนอย่าถามในตอนนี้ 

เผยบอกรักภรรยาทุกวัน ก่อนแซวนักข่าว มีแฟนหรือไม่

พล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์เศษฐกิจหรือ ศบศ.พร้อมระบุว่า วันนี้นายกรัฐมนตรีใจดีและอารมณ์เย็นตลอด ส่วนที่ประชุมได้มีการพูดแซวกันถึงวันครอบครัว วันภรรยาของประเทศญี่ปุ่น ส่วนจะมีอะไรพิเศษให้กับภรรยาหรือไม่นั้น ถือว่าเป็นเรื่องส่วนตัว แต่รักภรรยาทุกวัน ไม่มีวันพิเศษ พร้อมหยอกล้อสื่อมวลชนว่า “มีแฟนแล้วหรือยัง ถ้ายังไม่มีก็ไม่ต้องมาพูดกับคนที่มีแฟน และขอให้ทุกคนมีความสุข สวัสดีนะจ๊ะ”

สั่ง ศบค.ประสานผู้ประกอบการจัดปีใหม่ ยินดียอดโควิดลดลง

พล.อ.ประยุทธ์ ระบุถึงการจัดงานเทศกาลปีใหม่ว่า ได้สั่งการ ศบค.ให้ประสานผู้ประกอบการที่ประสงค์จะจัดงานปีใหม่มาร่วมพูดคุยและกำหนดมาตรการร่วมกัน ภายในสัปดาห์แรกของเดือน ธ.ค.นี้ เพื่อให้มีเวลาเตรียมการ โดยหลักการแล้วให้จัดงานกลางแจ้ง เพราะต้องระมัดระวังไม่ให้มีการแพร่ระบาดอีกระลอก ส่วนมาตรการสกัดกั้นการแพร่เชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน ขณะนี้ประเทศไทยยังไม่พบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์ดังกล่าว แต่ต้องติดตามตัวผู้ที่เดินทางเข้ามาจากประเทศเสี่ยงก่อนหน้านี้ มาตรวจ RT-PCR ซ้ำ และให้ทราบว่าอยู่พื้นที่ใดเพื่อให้หน่วยงานในพื้นที่เข้าตรวจสอบว่ามีการติดเชื้อหรือไม่ เพื่อเข้าสู่มาตรการสาธารณสุขต่อไป ซึ่งเชื่อว่าเจ้าตัวจะระมัดระวังตนเองอยู่แล้ว 

ทั้งนี้ สถิติผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศ และรักษาหาย รวมถึงการเสียชีวิต ลดลงตามลำดับในห้วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นเรื่องที่น่ายินดี เพราะสถานการณ์ดีขึ้นตามลำดับ กิจการหลายประเภททยอยเปิดให้บริการได้ 

ขณะที่การเยียวยาผู้ประกอบการสถานบันเทิง ศิลปิน นักดนตรีกลางคืน ได้ใอบหมายให้กระทรวงแรงงานพิจารณาแล้ว