เว็บไซต์อิระวดี รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวหลายแห่งในกรุงเนปิดอว์ว่า ทางการจีนได้ส่งหน่วยทหารพร้อมยุทโธปกรณ์ลงพื้นที่ในเมืองเจี่ยเก้า เขตปกครองตนเองชนชาติไท สิบสองปันนา ซึ่งอยู่ติดกับชายแดนรัฐฉานของเมียนมา เพื่อคุ้มกันความปลอดภัยให้กับท่อส่งน้ำมันสายสำคัญระหว่างจีนกับเมียนมา

แหล่งข่าวยังยืนยันอีกว่า เจ้าหน้าที่จีนได้พยายามกดดันให้รัฐบาลทหารเสริมกองกำลังรักษาความปลอดภัยท่อส่งน้ำมันในพื้นในรัฐฉาน แต่กองทัพไม่อาจทำได้เต็มที่ เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวอยู่ภายใต้อิทธิพลของกองกำลังติดอาวุธชาติพันธุ์ฉาน (SSA) หรือ นักรบไทใหญ่ โดยอิระวดีอ้างเอกสารลับว่า ไป๋ เทียน อธิบดีกรมกิจการความมั่นคงระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศจีน ได้ขอให้รัฐบาลทหารรับรองความปลอดภัยของท่อส่งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ หลังเกิดกระแสต่อต้านจีนในประเทศ

สำหรับท่อส่งพลังที่จีนกังวลเป็นโครงการท่อส่งน้ำมันคู่ก๊าซธรรมชาติ ความยาวกว่า 800 กิโลเมตร เป็นส่วนหนึ่งในโครงการริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (BRI) ของปักกิ่ง มีจุดเริ่มต้นตั้งแต่ท่าเรือเจาะผิว ( Kyaukphyu) ในรัฐยะไข่บนอ่าวเบงกอล ซึ่งเป็นโครงการพัฒนาท่าเรือน้ำลึกที่จีนลงทุน ทอดยาวผ่านพื้นที่ภูมิมาเกว เขตมัณฑะเลย์ สิ้นสุดทางต่อเหนือของรัฐฉานก่อนเชื่อมต่อเข้าสู่จีน โครงการท่อคู่นี้สามารถส่งน้ำมันได้ 22 ล้านต่อปี ส่วนก๊าซธรรมชาติสามารถส่งได้ 12,000 ล้านลูกบาศก์เมตร

ความเคลื่อนไหวล่าสุดของจีน มีขึ้นท่ามกลางความตึงเครียดระหว่างกองทัพเมียนมา กับท่าทีของกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์อย่างน้อย 3 กลุ่ม ที่ออกแถลงการณ์ว่ากำลังพิจารณาเปิดฉากต่อสู้กับกองทัพ เพื่อปกป้องและอยู่เคียงข้างประชาชนที่ออกมาเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตย ส่งผลให้ปักกิ่งเกรงว่าผลประโยชน์ของกลุ่มทุนจีนในเมียนมารวมถึงท่อส่งพลังงานดังกล่าว จะได้รับผลกระทบจากกระแสต่อต้านจีนในหมู่ประชาชนชาวเมียนมาซึ่งมองว่าจีนมีท่าทีสนับสนุนคณะรัฐประหาร 

ประกอบกับจีนและรัสเซีย ในฐานะสมาชิกถาวรคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติได้แสดงจุดยืนสวนทางนานาชาติในหลายครั้ง ด้วยการบอกว่านานาชาติไม่ควรเข้าไปยุ่งในกิจการภายในของเมียนมา ส่งผลให้ที่ผ่านมากลุ่มผู้ประท้วงไม่เพียงเรียกร้องค่ำบาตรสินค้าที่ผลิตในจีนเท่านั้น แต่ยังเคลื่อนไหวมุ่งเป้าไปยังบริษัทหรือโรงงานของกลุ่มทุนจีนในประเทศด้วย