เฟซบุ๊กแฟนเพจนางงาม t-pageant.com ตั้งกระทู้เลือก 2 พิธีกรดัง กาละแมร์ พัชรศรี เบญจมาศ และ แขก คำผกา หรือ ลักขณา ปันวิชัย ว่ามีคุณสมบัติที่เหมาะสมที่สุดที่จะมาเป็นหัวหน้าเทรนนางงามตอบคำถามเพื่อเสริมสร้างทักษะและศักยภาพในการตอบคำถามบนเวทีในรอบสุดท้าย โดยระบุคุณสมบัติ แขก คำผกา เป็นขวัญใจลิเบอรัล อิสระชน คนเสรี กับแนวคิดแบบเสรีนิยม ที่ค่อนข้างจะมีความทันสมัย เน้นเรื่องฟรีสปีช เน้นเรื่องสิทธิเสรีภาพ กับแนวความคิดที่ทันสมัยมาก แขกมีความโดดเด่นในการพูดที่นอกจากจะบาดลึกและกรีดทุกคำแล้ว อินเนอร์น้ำเสียงของแขกจะทรงพลังก้องและดังกังวาล ทุกคำพูด ทุกแนวคิดของแขกจะสะท้อนคอนเซ็ปต์ของคำว่าเอ็มพาวเวอร์ที่แท้ทรู ที่สำคัญแขกมีแนวทางและแนวคิดที่ค่อนข้างสากลมากๆ และมีความพีซีทุกครั้งที่อ้าปาก มันจะกินใจกรรมการแน่นอน

ทีมข่าว 'วอยซ์ออนไลน์' ได้พูดคุย กับ แขก คำผกา หากได้มาทำหน้าที่ในการเทรนตอบคำถามของนางงามไทย รูปแบบนั้นต้องเป็นยังไง

ปรับความคิด ใส่ความรู้พื้นฐาน

สิ่งแรกที่จะต้องเข้าใจบนเวทีนางงาม คือ เวลาที่คำถามถามนางงาม เช่น ให้เลือกอะไร ระหว่าง ความปลอดภัย กับ ความเป็นส่วนตัว มันไม่มีคำตอบที่ถูกต้อง คุณจะตอบความปลอดภัย หรือความเป็นส่วนตัวก็ได้ ความสำคัญมันไม่ใช่คำตอบ เวลาเขาถามเขาอยากรู้วิธีคิด เพราะฉะนั้นคนจะเข้าใจว่าจะต้องตอบในแนวทางลิเบอรัล หรือแนวทางประชาธิปไตยเท่านั้น มงถึงจะลง ซึ่งมันไม่จริง สิ่งสำคัญที่สุดในการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นบนโลกศิวิไลซ์ เขาไม่ไปตัดสินคุณหรอก ว่าสิ่งที่คุณคิดมันผิด สิ่งที่ฉันคิดมันถูก เพราะฉะนั้น เราต้องเริ่มจากการที่เราต้องเข้าใจว่า คนพร้อมที่จะเคารพความคิดของคุณ คนพร้อมจะเคารพคำตอบของคุณ คำตอบของคุณอาจจะอนุรักษ์นิยมก็ได้ คำตอบของคุณอาจจะไม่ ลิเบอรัลก็ได้ ประชาธิปไตยก็ได้ แต่สิ่งที่สำคัญที่เขาอยากจะฟัง คุณสนับสนุนคำตอบของคุณด้วยเหตุผลอะไร เพราะคนรู้สึกว่า แขก ลิเบอรัล

ถ้าเอาแขกไปเทรนนางงามจะได้ตอบอะไรที่เป็นประชาธิปไตย หรือ ลิเบอรัล มันต้องชนะใจกรรมการ หรือชนะใจคนดูแน่นอน ดังนั้น เหมือนให้แขกไปเฉลยข้อสอบให้นางงาม แขกอยากให้เราเข้าใจตรงกันก่อนว่า ไม่จำเป็นต้องเลือกแขก เพราะนางงามไม่จำเป็นต้องตอบแบบแขก หรือคิดเหมือนแขก มันถึงจะไปชนะใจกรรมการ หรือว่าชนะใจคนดู 

หน้าที่ของคนเทรนนางงามไม่ใช่ไปเฉลยคำตอบให้นางงาม แล้วให้นางงามไปท่องไปตอบให้มันดูแนบเนียน สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ วิธีคิด สมมติว่าเขาให้เลือกอะไรระหว่างความเป็นส่วนตัว และความปลอดภัย นางงามต้องตอบในสิ่งที่เชื่อจริงๆ ก่อน ถ้าเกิดนางงามเขาไม่สนใจความเป็นส่วนตัว เพราะสำหรับเขารู้สึกว่าความเป็นส่วนตัวสำคัญน้อยกว่าความปลอดภัย เพราะไม่กังวลที่จะให้ความเป็นส่วนตัว เพื่อให้มันมีความมั่นคง เขารู้สึกมั่นคง เขารู้สึกปลอดภัย รัฐจะได้สอดส่องดูแลเราได้ เขาโอเค เขาก็มีสิทธิที่จะตอบแบบนั้นนะ

แต่วิธีการให้เหตุผลต่างหาก มันเป็นเรื่องของการเรียงลำดับความคิด ไม่สะเปะสะปะ ตรรกะคุณต้องแม่น แล้วคุณจะต้องมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับสำนักคิดต่างๆ สิ่งนี้เป็นเรื่องสำคัญ คุณต้องมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ ทางรัฐศาสตร์ ทันข่าว ทันโลก ทันเหตุการณ์ อ่านหนังสือเยอะ ต้องติดตามข่าวสาร โลกเขาดีเบตกันเรื่องอะไรอยู่ ตั้งแต่เรื่องเล็กไปจนถึงเรื่องใหญ่ แต่คุณไม่ต้องเก่งทุกเรื่อง แต่อะไรที่มันเป็นพื้นฐาน 101 ต้องมี

เมื่อคุณมีความรู้พื้นฐานในทุกแขนง ซึ่งความรู้พื้นฐานเหล่านี้เด็กที่ผ่านมัธยมศึกษาตอนปลายเคยเรียนมาหมดแล้ว ประวัติศาสตร์โลก ประวัติศาสตร์ภูมิภาคแบบคร่าว ที่ต้องรู้ สิ่งที่สำคัญเวลาที่เราบอกว่าเราเชื่ออะไร หรือเราเลือกอะไร เราจะต้องมีเหตุผลสนับสนุน และเราจะต้องสามารถอธิบายให้คนอื่นเข้าใจได้ว่า ทำไมเราจึงเลือกสิ่งนั้น การเทรนนางงามเราต้องเทรนสิ่งนี้ให้เกิดขึ้นให้ได้ว่า วิธีการให้เหตุผล  แล้วอย่าตอบแบบเฟค

สำหรับแขก อันดับแรก ต้องไม่เฟค ต้องมีอารมณ์ร่วมกับสิ่งที่ตัวเองตอบ เราต้องมีความซื่อสัตย์กับตัวเอง เพราะฉะนั้น สิ่งที่จะเอาไปเทรนนางงามในการตอบคำถาม พี่คิดว่าต้องเป็นคนที่สามารถเทรนให้นางงาม ไม่อายที่จะเป็นตัวเอง"

เพราะเท่าที่เห็นเวทีนางงาม นางงามจะพยายามเป็นบางสิ่งบางอย่างที่ไม่ใช่ตัวเอง นางงามทุกคนขึ้นไปประกวดแบบเก็งข้อสอบ แล้วจะพยายามเทรนให้ตัวเองไปตรงกับข้อสอบที่เราเก็งไว้ เช่น ปีนี้เขาชอบผู้หญิงสตรอง เปิดเผย แล้วเราเป็นคนเรียบร้อย เราก็ต้องไปแสดงว่าเราสตรอง เราจะต้องเทรนให้นางงามภูมิใจในตัวเอง เห็นว่าตัวเองมีดีอะไร และไม่อายที่จะเป็นตัวเอง ซึ่งนางงามไทยมีแพทเทิร์นบางอย่างที่ทำให้เราไม่รู้คนนี้เป็นคนยังไง และมันอาจจะเป็นความเข้าใจผิดของนางงามคนนั้น เช่นถ้าเราเป็นแบบที่เราเป็น เราจะไม่ได้รับการยอมรับแน่เลย มันจะน่าอาย อย่ากลัวที่จะไม่เป็นที่รัก ต้องมีคนเทรนเรื่องนี้ ซึ่งพี่ก็ไม่รู้ว่าใครจะมาเทรนเรื่องนี้ได้

จัดทีมนักวิชาการ ติวเข้มความรู้

ส่วนเรื่องคำถามเราจัดทีมเลยไหม ว่าพานักวิชาการเฉพาะแต่ละด้านมาให้ความรู้นางงาม การเมือง ให้ไปเทรนกับ อ.ประจักษ์ ก้องกีรติ  เรียนประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ กับ อ.พวงทอง ภวัครพันธ์ุ  เรียนประวัติศาสตร์ไทย กับ อ.ชาญวิทย์ เกษตรศิริ หรือ สุจิตต์ วงษ์เทศ  และเรียนประวัติศาสตร์เพศวิถี กับ ชลิดาภรณ์ ส่งสัมพันธ์ เพื่อให้เขามีพื้นความรู้และเข้าใจ จัดคอร์สสั้นๆ และสุดท้ายเวลาไปเจอคำถามบนเวทีเขาจะได้มีข้อมูลพื้นฐานอะไรบ้าง สิ่งที่เขาอยากฟัง คือ วิธีการให้เหตุผล เขาอยากเห็นสมอง 

รู้สึกอย่างไร ที่แฟนนางงาม อยากให้เป็นผู้เทรนคำถาม

เราต้องดูแหล่งอ้างอิงของประเทศไทยตอนนี้เราเป็นประเทศที่... เราเหมือนเกาหลีเหนือในสายตาชาวโลก ตอนนี้ชาวโลกเขามองประเทศไทยเหมือนประมาณเกาหลีเหนือ เขาก็คงอยากจะให้นางงาม ไปบอกชาวโลกว่าแม้ประเทศเราจะดูคล้ายเกาหลีเหนือมาก แต่เราไม่ได้โดนล้างสมองนะ เขาก็คงอยากเห็นนางงามไปพูดอะไรที่ไม่ดูเหมือนโดนล้างสมองมาแบบไทยๆ ลึกๆแล้ว สะท้อนให้เห็นว่า กลุ่มแฟนนางงามเขาอายนะ เขาอายในสิ่งที่ประเทศไทยเป็น นางงามที่ผ่านๆมา เป็นโรคกลัวคนไม่รัก คือพยายามเอาใจคนอื่นมากเกินไปและไม่รู้เขาคิดอะไร นางงามไทยกลัวไม่เป็นที่รักเลยอยากทำอะไรเอาใจทุกคน

คุณสมบัตินางงามที่จะคว้ามงกุฏมิสยูนิเวิร์ส มงที่ 3 ในใจ 'คำผกา'

นางงามไทย กล้าเรียกร้องเรื่องประชาธิปไตยให้กับประเทศบนเวทีนางงาม กล้าพูดถึงปัญหาสิทธิมนุษยชนในเมืองไทย กล้าพูดถึงรัฐบาลเผด็จการที่อยู่ในประเทศไทย กล้าที่จะไปป่าวประกาศว่าตอนนี้ประเทศไทยมีปัญหาเกี่ยวกับสิทธิเสรีภาพ Freedom of Speech