ไม่พบผลการค้นหา
หลังสื่อมวลชน ประจำทำเนียบฯ ตั้งฉายารัฐบาลและรัฐมนตรี ได้ไม่ถึงครึ่งวัน ก็ได้เห็น ‘ปฏิบัติการไอโอ’ จากฝ่าย ‘กองหนุนรัฐบาล’ ทันที ที่ตั้งฉายาสื่อและสำนักข่าวให้สื่อบ้าง

แต่ความพิรุธนี้มาถูกจับสังเกตหลัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์สื่อให้รอดูประชาชนตั้งฉายาให้สื่อบ้าง ผ่านมาเพียง 10 นาที หลัง นายกฯ ให้สัมภาษณ์ เพจหน้าใหม่ที่ตั้งได้เพียง 4 เดือน เพจ The Key News ที่ผ่านๆมาทีความเคลื่อนไหวไม่มากนัก ได้โพสต์ฉายาสื่อตามมาทันที

“สื่อตั้งมา สื่อก็สนุกสนานกันไป ในส่วนประชาชนชน ผมเห็นว่าเขากำลังจะตั้งฉายาสื่อกันอยู่ ให้รอฟังเขาก็แล้วกัน ผมก็อยากรู้เหมือนกัน เขาจะตั้งอย่างไรบ้าง อันนี้ก็คือรับฟังสองทาง ผมไม่ไปว่าใครอยู่แล้ว” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

ถือเป็นการ ‘รับลูก’ กันอย่างทันควัน ซึ่งฉายาที่เพจอวตารตั้งให้ ส่วนใหญ่เป็นสื่อที่ถูกจัดให้อยู่ ‘ขั้วตรงข้ามรัฐบาล’ จึงเกิดข้อสงสัยตามมาว่าเหตุใด นายกฯ ถึงออกมาพูดในลักษณะรู้มาก่อน จนถูกเรียกว่าเป็น ‘ผู้มาก่อนกาล’ ซึ่งขณะให้สัมภาษณ์สื่อ นายกฯ มีท่าที ‘เก็บอารมณ์’ พอสมควร ไม่เหมือนเช่นการตั้งฉายาปีที่แล้ว ที่ นายกฯ แสดงออกชัดเจน

ประยุทธ์ โควิด1000000.jpg

ทว่ามีการสืบต้นต่อ ‘เพจอวตาร’ ดังกล่าว มีที่มาอย่างไร ว่ากันว่ามาจาก ‘กองหนุนตัวแม่’ นอกทำเนียบฯ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะก่อนหน้านี้ก็มี ‘เพจลักษณะเดียวกัน’ เช่น เพจเปรี้ยง เพจลุงตู่ตูน เป็นต้น ที่ตั้งข้อสังเกตว่าคนในทำเนียบฯเป็นคนทำ สะท้อนภาพการ ‘ตอบโต้ข่าว’ ในยุคโซเชียลมีเดีย ที่ฝ่ายรัฐไม่ได้ ‘ตั้งรับ’ เพียงอย่างเดียว และไม่ต้องหวังพึ่ง ‘สื่อกระแสหลัก’ อีกต่อไป

แม้ ‘พล.อ.ประยุทธ์’ จะได้รับฉายา ‘ตู่ไม่รู้ล้ม’ ที่ล้อจากคำ ‘โด่ไม่รู้ล้ม’ ชื่อยาดองชนิดหนึ่ง สะท้อนถึงการทำงานของนายกฯ ที่ไม่ว่าจะประสบปัญหา อุปสรรคการเมือง หรือ ชุมนุมขับไล่ ยังอยู่ในตำแหน่งได้ต่อไป 

รวมทั้งผ่านพ้นจาก 3 คดีที่ศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยไปแล้ว ได้แก่ กรณีนำ ครม. ถวายสัตย์ปฏิญาณ ไม่ครบถ้วน กรณีการเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ หรือไม่ และล่าสุดคือกรณี ‘บ้านพักรับรอง’ ในค่ายทหาร ทำให้สถานะของ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่มีชนักติดหลัง ทว่าปีนี้ยังคงเป็น ‘ปีชง’ ของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่เจอสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19อีกครั้งส่งท้ายปี 2563

ซึ่งต้นตอก็มาจาก ‘ความบกพร่อง’ ของฝ่ายรัฐเอง โดยเฉพาะฝ่ายความมั่นคง ที่ทั้ง ‘3ป.บูรพาพยัคฆ์’ เป็นผู้ดูแล ได้แก่ พล.อ.ประยุทธ์ ดูแลภาพรวมและตำรวจ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯฝ่ายความมั่นคง และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย 

ประยุทธ์ อนุพงษ์ ประวิตร 0724121834000000.jpg

หลังเกิดการแพร่ระบาดที่เรียกว่า ‘อุดผิดรู’ จากที่ไปตามอุดที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย แต่กลับมาระบาดที่มหาชัย จ.สมุทรสาคร ที่มีแรงงานชาวเมียนมาจำนวนมาก ซึ่งเป็นผลพวงจากการ ‘ลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย’ จากนั้นเกิดการแพร่ระบาดที่บ่อน ใน จ.ระยอง และล่าสุดขยายวงไปที่ จ.ชลบุรี ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ รีบลงพื้นที่ 2 จังหวัดโดยด่วน เพื่อเตรียม รพ.สนาม และการตรวจเชื้อเชิงรุก ซึ่งตัวเลขการแพร่ระบาดทะลุหลักร้อยต่อวัน แม้ ศบค. ใหญ่ จะไม่ประกาศล็อกดาวน์หรือประกาศเคอร์ฟิวทั่วประเทศ เช่นเมื่อต้นปี63 แต่ใช้วิธี ‘แบ่งโซนสี’ และให้อำนาจ ผู้ว่าฯ ในการออกคำสั่งในพื้นที่ตัวเอง จนหลายพื้นที่ เรียกได้ว่าเป็น ‘ล็อกดาวน์ครึ่งใบ’ ไปแล้ว

พล.อ.ประยุทธ์ เองก็ปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ทั้งเรื่องบ่อนและการป้องกันแนวชายแดน เพราะเป็น รมว.กลาโหม และ ประธาน ก.ตร. หลังมีดำเนินการทางวินัยกับตำรวจยศ ‘พันตำรวจเอก-ดาบตำรวจ’ ในพื้นที่ จ.กาญจนบุรี จากการขยายผลการจับกุมขบวนการขนแรงงานเถื่อน รวมทั้งตั้งกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง ร้อยตำรวจเอก 1 นาย กับ ตร.ชั้น ประทวน 2 นาย ด้วย

ในส่วนบ่อน จ.ระยอง ก็พ่นพิษใส่ ‘ผู้การระยอง - 4 เสือโรงพักระยอง’ หลัง พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้เซ็นคำสั่งย้าย พล.ต.ต.ปภัชเดช เกตุพันธ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ระยอง ให้มาปฏิบัติราชการที่ ศปก.ตร. โดยให้ขาดจากตำแหน่งเดิม และให้ พล.ต.ต.มานะ อินพิทักษ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 รักษาราชการ แทนผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดระยอง อีกตำแหน่งหนึ่ง 

รวมทั้งสั่งย้าย พ.ต.ท.เกียรติพงศ์ กรมขุนทด รองผู้กำกับการป้องกันปราบปราม พ.ต.ท.โกศล เกิดมณี รองผู้กำกับการสืบสวน พ.ต.ท.คำพันธ์ ขวัญทอง สารวัตรสืบสวน และ พ.ต.ต.ธนา วิเศษชัย สารวัตรป้องกันปราบปราม ให้ไปปฏิบัติราชการที่ ศปก.ภ.2 ด้วย 

ประยุทธ์ สาธิต ปิตุเตชะ ระยอง โควิด 80835000000.jpg

รวมทั้งกรณี ‘บ่อนระยอง’ ที่มีการออกมาแฉว่าเป็นของ ‘หลงจู๊ ส.’ ผู้กว้างขวางใน จ.ระยอง แถม ‘ลูกชาย หลงจู๊ ส.’ ก็ติดโควิดด้วย หลังมาประชุมที่สภาร่วมกับ ‘อนุ กมธ.พนันออนไลน์’ โดยมีตำแหน่งเป็น ‘คณะทำงาน’ ของ ‘บิ๊ก ส.’ ประจำรัฐสภา ทำให้ถึง ‘บางอ้อ’ กันถ้วนหน้า ซึ่ง ‘บิ๊ก ส.’ คนดังกล่าว ก็เป็น ‘บิ๊กเนม’ ของพรรครัฐบาลด้วย

แน่นอนว่า ‘กระสุน’ ลูกนี้ย่อมตกมาที่ พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะ นายกฯ และ พล.อ.ประวิตร ในฐานะผู้จัดการรัฐบาลเต็มๆ

เปรียบเป็น ‘สนิมเนื้อใน’ ของวงการ ตร. และ รัฐบาล ที่สามารถถูกใช้เป็น ‘เงื่อนไข-ชนวน’ ของการชุมนุมกลุ่มราษฎร ได้ไม่ยากในปีหน้า เพราะการชุมนุมเมื่อ ก.ค. 2563 ที่กลับมาจุดติด ก็มาจากกรณี ‘ทหารอิยิปต์’ ที่ติดโควิด

และกรณีการคุมตัว ‘ไมค์-ภาณุพงศ์ จาดนอก’ ที่ขณะนั้นเป็น แกนนำเยาวชนตะวันออกเพื่อประชาธิปไตย ออกนอกพื้นที่ หลังมาถือป้ายประท้วง นายกฯ ขณะลงพื้นที่นั่นเอง

แม้ฝ่ายความมั่นคงจะประเมินว่าการชุมนุมแผ่วลง แต่ในมุมของแกนนำกลุ่มราษฎร ก็ย้ำว่าปี 2563 เป็นเพียงการ ‘โหมโรง’ เท่านั้น จึงทำให้ทุกย่างก้าวของรัฐบาล ต้องเป็นไปอย่างระมัดระวัง

ระวังสะดุดขาตัวเอง !!

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ปริศนา ลายพราง
164Article
0Video
39Blog