ไม่พบผลการค้นหา
'ตั๊กแตน-ชลดา' ยันไม่คิดต่อสัญญาแกรมมี่โกลด์ มองเป็นเรื่องอนาคต ถือว่าช่วงนี้ได้พักปิดเทอม ออกอัลบั้มอิสระ 'โบกใหญ่ๆ' ใช้ประสบการณ์หน้าเวทีกว่า 16 ปี จัดเพลงหน้าฮ้าน (หน้าเวที) และเพลงช้าเชือดเฉือน หวังแฟนเพลงเปิดใจฟัง

'ตั๊กแตน ชลดา' นักร้องลูกทุ่ง ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าว ‘วอยซ์ออนไลน์’ หลังหมดสัญญากับค่ายแกรมมี่โกลด์ เมื่อวันพุธที่ 23 ตุลาคมที่ผ่านมา เธอใช้คำว่า ‘ปิดเทอม’ คือตัดสินใจยังไม่ขอต่อสัญญากับค่ายแกรมมี่โกลด์ โดยถือโอกาสช่วงนี้ออกอัลบั้มใหม่ในนาม ‘ตั๊กแตน ชลดา’ เอง ซึ่งถือเป็นอัลบั้มที่ 11 ในชีวิต

ใช้ชื่ออัลบั้มว่า ‘โบกใหญ่ๆ’ แปลว่าจัดหนัก จัดเต็ม เต็มที่ สามารถนำมาใช้กับอะไรก็ได้ เช่น กินก็กินเต็มที่ให้ท้องแตก กินเหล้าก็ยกหมดแก้ว เต้นก็สุดเหวี่ยง เธอเล่าว่าเธอต้องการทำอะไรสนุกๆ ตามความคิดความสามารถที่พอทำได้ ซึ่งอัลบั้มชุดนี้ประกอบด้วยเพลงสนุกๆ 6 เพลง และเพลงช้าเชือดเฉือนอีก 1 เพลง รวมเป็น 7 เพลง ไม่ต้องถึง 10 หรือ 12 เพลงตามอัลบั้มปกติ แนวเพลงก็หลากสไตล์

ตั๊กแตน ชลดา.jpg

เธอนิยามตัวเองว่าเป็นคนหลุดกรอบ อยากดึงความสามารถของตัวเองในด้านการร้องเพลงออกมาให้มากที่สุด เช่น ร้องเพลงภาคกลางก็ได้ อีสานก็ได้ และต่อไปอาจจะทำเพลงภาษาใต้ เพื่อให้ใช้ความสามารถหลากหลายแนว หรือแนวเพลงก็ไม่ใช่ว่าต้องเป็นลูกทุ่งแนวหวานอย่างเดียว อาจจะเป็นเปรี้ยวหรือสามช่าบ้างก็ได้ เพราะเธอรู้สึกว่าเวลาไปแสดงและจอยกับแฟนเพลงหน้าเวทีจะได้มีความมันส์ ความสนุกเกิดขึ้น และมอบความสนุกให้กับคนดูเต็มที่ตามที่เขาคาดหวังเวลามาเจอเราจึงเป็นสาเหตุให้เกิดอัลบั้มนี้ขึ้นมา ซึ่งในอัลบั้มนี้เธอก็คิดเอาเพลงที่เรียกว่าเตะก้านคอมาทุกเพลง

ตั๊กแตนบอกว่าในฐานะนักร้องถือว่าโดนใจเธอมาก แต่สำหรับแฟนเพลงก็ต้องลองฟัง เช่น เพลงขอบาย ที่มีเนื้อร้องท่อนหนึ่งว่า ถ้าคิดจะเยแล้วเททิ้ง เปิดซิงคนอื่นไปทั่ว จะไม่ไปเกลือกกลั้วกับคนประเภทนี้” เน้นเนื้อหารุนแรงโดนใจวัยรุ่น และยังมีเพลงอื่นๆ ที่เอาใจคอหน้าฮ้าน ซึ่งในฐานะคนร้องเพลง เธอบอกว่าต้องทำให้ดีที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ ไม่ว่าจะอยู่กับค่ายหรือทำด้วยตัวเอง

ส่วนเรื่องการต่อสัญญา มันเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงระบบการบริหารงานภายในค่าย รวมทั้งเปลี่ยนผู้บริหารใหม่ มันก็เลยเป็นเรื่องของการพูดคุยและเธอก็หมดสัญญาในช่วงนี้พอดี ช่วงรอยต่อนี้จึงเป็นโอกาสดีที่ให้เธอได้ทำอะไรก็ได้ ส่วนจะกลับไปต่อสัญญาอีกไหมหลังจากนี้ เธอบอกว่าไม่แน่ อาจจะกลับ หรือไม่กลับก็เป็นไปได้หมด

ขณะที่เพลงเก่าๆ ของเธอที่ติดหูแฟนเพลง เช่น แฟนเก็บ, ไม่ใช่แฟนทำแทนไม่ได้ เป็นต้น เธอติดต่อซื้อลิขสิทธิ์ไปแล้วแต่ยังไม่ลงตัวในข้อตกลง ซึ่งระหว่างนี้เธอก็เลยทำเพลงใหม่ขึ้นมาหลายเพลง แต่ไม่รู้ว่าการตอบรับจากแฟนๆ จะเป็นอย่างไร ก็คงได้แต่ขอความเมตตาจากแฟนๆ ไปก่อน ฝากเพลงใหม่ และรับรองว่าโชว์ใหม่นี้แน่นไปด้วยคุณภาพแน่นอน เพราะตั้งใจทำผลงานออกมาอย่างเต็มที่ และเพลงตลาดของค่ายอินดี้ที่ร้องได้โดยไม่มีลิขสิทธิ์ก็เยอะมาก

เธอกล่าวย้ำว่าที่ผ่านมาเราแคร์แฟนเพลงมากๆ ด้วย แต่เธอคิดว่าท้ายที่สุดตัวเรา เสียงเรา ถ้าแฟนเพลงไม่ยึดติดจนเกินไป เราร้องเพลงอะไร แฟนเพลงก็คงจะเปิดใจฟังไปเรื่อยๆ ไม่เคยคิดว่าเธอใหม่จะต้องดังกล่าวเพลงเก่า คิดแค่ว่าอยากทำอะไรเราก็ทำ เพราะเป็นช่วงปิดเทอม และถ้าช่วงเปลี่ยนผ่านนี้อาจจะทำให้เธอเสียแฟนเพลงเก่าๆ ไป เธอคิดว่ายุคสมัยนี้อะไรก็เป็นไปได้ ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงเร็ว เพลงหลายเพลงดังสักพักก็หายไป เธอเองก็ยังมองตลาดเพลงไม่ออก ดังนั้นไม่ว่าจะเกิดอะไรเราก็ต้องยอมรับให้ได้

ตั๊กแตน ชลดา.jpg

ตั๊กแตน เล่าให้ฟังว่า กระบวนการทำงานของเธอ เธอจะคิดว่าอยากร้องเพลงแบบไหน แนวไหน ชื่อเพลงอะไร คิดตั้งแต่คอนเซ็ปต์ก่อนการเปลี่ยนเพลง แล้วจึงไปบอกครูเพลงถึงเนื้อหาและบอกผู้เรียบเรียงเสียงประสานดนตรีที่อยากได้ ทุกครั้งเธอจะคิดถึงประสบการณ์หน้าเวที ว่า ฉันยังขาดตรงนี้ แล้วแฟนเพลงต้องการแบบนี้ จึงหยิบมาสร้างเป็นผลงาน ซึ่งประสบการณ์หน้าเวทีไม่มีใครบอกเราได้ เราต้องไปสัมผัสเองจากแฟนๆ ว่ายังขาดตรงไหน ต้องเพิ่มตรงไหน

เธอยกตัวอย่างว่ามีอยู่ครั้งหนึ่งแฟนคลับตะโกนมาว่า “เอื้อยตั๊กแตน ขอเพลงเด้าๆ แนจ้า” ตอนนั้นเธอก็คิดขึ้นมาได้ว่า “อ้าว เรายังไม่มีเพลงเด้าๆ เลยโว้ย ทำยังไงถึงจะมีเพลงเด้าๆ หน้าฮ้านเหมือนเพลงเต่างอยของพี่จิน ก็เลยจัดเพลงโบกใหญ่ๆ” และช่วงเวลาที่เธอชอบที่สุดเวลาอยู่หน้าเวทีคือแฟนเพลงจอยกับเรา เพลงเร็วก็จะโยก เพลงช้าก็จะโบกมือ เธอรู้สึกว่าถ้าวันไหนที่ร้องเพลงแล้วคนจอยกับเรา เราก็ถือว่าวันนั้นเราประสบความสำเร็จในการเอ็นเตอร์เทนคน

“สำหรับตั๊กแตน คนดูมีความหมายมาก ไม่ว่าคนดูน้อยหรือคนดูมาก มีความหมายที่สุด คนดูน้อยก็เล่นเต็มร้อยเหมือนเดิม ไม่เกี่ยว เพราะหน้าที่เราคือต้องเอ็นเตอร์เทนให้กับแฟนของเรา แฟนเพลงที่เขารักเรา เพราะว่าเรามายืนอยู่ตรงนี้ได้ก็คือมาจากแฟนล้วนๆ เลย”  ตั๊กแตน กล่าว 

ตั๊กแตนเล่าต่อว่า สิ่งที่ประทับใจมากๆ และเคยเจอหลายเวทีด้วย คือ แฟนเพลงเขามายืนร้องไห้ตอนที่เราร้องเพลง เพลงสนุกก็ร้องไห้ เขาร้องออกมาจากหัวใจ เราจับใจความได้เลยว่าเขาผ่านอะไรมาเยอะแยะมากมาย ซึ่งหลายๆ คน เธอเชื่อว่ามีช่วงเวลาที่ทั้งสุขและเศร้า เราก็ไม่รู้ว่าเพลงไหนมันโดนสำหรับเขา แต่บางคนยืนร้องตั้งแต่แรกเจอจบคอนเสิร์ตคือเขาอิน เรารู้สึกว่าเพลงเรามันเหมือนช่วยเยียวยา บรรเทา และผ่อนคลาย เรามีความสุขที่ได้มอบตรงนี้ให้กับเขา

พร้อมยืนยันว่าทั้ง 7 เพลงนี้มันมาจากประสบการณ์ 16 ปี หน้าเวทีล้วน มันเลยสนองทั้งความต้องการของคนร้องและแฟนเพลง ต้องขอบคุณผู้ใหญ่และค่ายแกรมมี่โกลด์ที่ทำให้เธอมีประสบการณ์และเขาถึงคนดูได้เหมือนทุกวันนี้

ทั้งนี้ ตั๊กแตน จะเปิดตัวอัลบั้ม ‘โบกใหญ่ๆ Show นอก(ก)รอบ’ ในวันอังคารที่ 29 ตุลาคมนี้ ที่โรงแรมสวิสโซเทล บางกอก รัชดา พร้อมทั้งมินิคอนเสิร์ต และจะทยอยเปิดตัว 7 เพลงในอัลบั้มหลังจากนี้ ได้แก่ โบกใหญ่ๆ, ก่นร่อง, บ่แม่นแนว, มันคักเติบอยู่, ขอบาย, นอกกรอบ และโรงฆ่าสัตว์ ตามลำดับ