นายมิยาซากิ ฮายาโอะ ผู้กำกับภาพยนตร์แอนิเมชั่นในตำนานของญี่ปุ่น เจ้าของผลงานอมตะอย่าง Spirited Away ถูกกล่าวหาว่าไม่รักชาติ ไปจนถึงเป็นพวกฝ่ายซ้าย ต่อต้านญี่ปุ่น
วันที่ 15 สิงหาคมของทุกปี เป็นวันที่กระแสรักชาติในญี่ปุ่นพุ่งขึ้นถึงขีดสุด และความตึงเครียดระหว่างญี่ปุ่นกับชาติเพื่อนบ้านอย่างจีนและญี่ปุ่นก็เพิ่มขึ้นถึงขีดสุดด้วยเช่นกัน เพราะวันนี้เป็นวันที่ญี่ปุ่นประกาศยอมแพ้สงครามโลกครั้งที่สอง หลังจากโดนนิวเคลียร์ถล่มฮิโรชิมาและนางาซากิ
ความตึงเครียดเริ่มต้นตั้งแต่เช้า เมื่อนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น นายชินโสะ อาเบะ ส่งเครื่องเซ่นไหว้ไปยังศาลยาสุคุนิ ที่ไว้กระดูกอาชญากรสงคราม 14 คน และพลเรือนที่ตายในช่วงสงครามโลก นอกจากนี้รัฐมนตรีอีก 2 คน และส.ส.อีกเกือบ 100 คนก็ไปคารวะสุสานด้วยเช่นกัน สร้างความไม่พอใจให้กับจีนและเกาหลีใต้ ที่มองว่าญี่ปุ่นไม่สำนึกผิดในอาชญากรรมที่ก่อขึ้นในช่วงสงคราม และยกย่องอาชญากรสงครามว่าเป็นวีรบุรุษของชาติ
เรื่องแบบนี้แทบจะเป็นธรรมเนียมที่เกิดขึ้นทุกปี แต่ดูเหมือนว่าปีนี้กระแสรักชาติในญี่ปุ่นจะเข้มข้นกว่าปกติ เพราะมีรัฐบาลอนุรักษ์นิยมให้ท้าย จนกระแสลามไปถึงวงการบันเทิง เมื่อนายมิยาซากิ ฮายาโอะ ผู้กำกับภาพยนตร์แอนิเมชั่นในตำนานของญี่ปุ่น เจ้าของผลงานอมตะอย่าง Spirited Away และผู้ร่วมก่อตั้งสตูดิโอจิบลิ ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นวอลท์ดิสนีย์แห่งญี่ปุ่น ถูกกล่าวหาว่าไม่รักชาติ ไปจนถึงเป็นพวกฝ่ายซ้าย ต่อต้านญี่ปุ่น และทรยศชาติ เรียกว่าถ้าเป็นเมืองไทย นายมิยาซากิคงถูกถามว่า "เป็นคนไทยรึเปล่า" ก็เป็นได้
เหตุผลที่เขาถูกโจมตีหนักหน่วงเช่นนี้ เกิดจากหนังเรื่องล่าสุดของมิยาซากิ ที่มีชื่อว่า "คาเซ ทาชินุ" หรือ Wind Rises ซึ่งเปิดตัวไปตั้งแต่เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคมที่ผ่านมา หนังเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกของมิยาซากิที่เอาเค้าโครงมาจากบุคคลจริงในประวัติศาสตร์ นั่นก็คือโฮริโคชิ จิโร วิศวกรผู้ออกแบบเครื่องบินรบของญี่ปุ่นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยเฉพาะรุ่นที่ใช้ในภารกิจกามิกาเซ่ หรือการจู่โจมแบบฆ่าตัวตาย
เรื่องนี้เหมือนจะเป็นหนังสงครามปลุกเลือดรักชาติ แต่มิยาซากิกลับนำเสนอเรื่องราวของโฮริโคชิในแง่ของนักประดิษฐ์ผู้มีพรสวรรค์ และคิดเพียงการสร้างเครื่องบินที่ดีที่สุด แต่กลับถูกสงครามและทุนนิยมบังคับให้ต้องกลายมาเป็นผู้สร้างอาวุธสงครามที่นำมาซึ่งความสูญเสียอย่างมหาศาล
ฟังดูเหมือนจะเป็นภาพยนตร์ต่อต้านสงครามที่ชาวญี่ปุ่นน่าจะภาคภูมิใจ แต่ปรากฏว่าในสถานการณ์ที่ฝ่ายอนุรักษ์นิยมรักชาติกำลังเฟื่องฟูเช่นตอนนี้ บรรดานักวิจารณ์ รวมถึงโลกออนไลน์ต่างประณามภาพยนตร์ของมิยาซากิว่าเป็นการทรยศต่อชาติ และบิดเบือนประวัติศาสตร์ พร้อมทั้งขุดคุ้ยข้อความที่มิยาซากิเคยกล่าววิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลมาตีแผ่ ว่าเขาเป็นพวกต่อต้านนายอาเบะ เช่นที่นายมิยาซากิกล่าวว่าคนที่ไม่มีความคิด ไม่ควรมายุ่งกับรัฐธรรมนูญของญี่ปุ่น หรือที่นายมิยาซษกิเคยเรียกร้องให้รัฐบาลญี่ปุ่นขอโทษผู้หญิงเกาหลีที่ถูกบังคับให้เป็นทาสทางเพศทหารญี่ปุ่นช่วงสงคราม
ไม่น่าเชื่อว่ากระแสล่าแม่มดแบบนี้จะเกิดขึ้นในญี่ปุ่นซึ่งเคยเป็นประเทศที่รักความสงบ แม้จะรักชาตอย่างเต็มเปี่ยว นี่จึงอาจเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าญี่ปุ่นภายใต้การนำของนายอาเบะ อาจกำลังกลายเป็นประเทศที่มีความชาตินิยมล้นเกินจนอันตรายต่อประเทศเพื่อนบ้านได้