จากหมายจับในคดียูฟัน จนถูกจับขณะกำลังจะข้ามไปฝั่งลาว ล่าสุดเกย์นทีได้รับการประกันตัวในวงเงิน 5 แสนบาท ก่อนกลับมาเชียงใหม่ขอพื้นที่สื่อเพื่อยืนยันไม่ตั้งใจหลบหนี บอกตัวเองแค่เหยื่อมันนี่เกม
นายนที ธีระโรจนพงษ์ อายุ 58 ปี หรือ เกย์นที ได้นัดผู้สื่อข่าวเปิดใจขณะมาเดินเที่ยวชมงานโอทอปล้านนาเอ็กโปร์ ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติจังหวัดเชียงใหม่ หลังได้รับการประกันตัว จากการถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ จ.มุกดาหาร จับกุมตัวตามหมายจับในคดีแชร์ลูกโซ่ บริษัท ยูฟัน สโตร์ จำกัด ขณะกำลังจะข้ามไปฝั่งลาว โดยใช้หลักทรัพย์ประกันตัวเป็นเงิน 5 แสนบาท
โดยนายนที เผยว่า ส่วนตัวผมเองก็เป็นสมาชิกคนหนึ่ง พูดง่ายๆว่าถ้าจะบอกว่า ยูฟัน เป็นมันนี่เกมส์ เราก็เป็นเหยื่อคนหนึ่ง ในระหว่างที่ทำธุรกิจกับยูฟันก็ได้นำแก้วแหวนเงินทองที่ได้เก็บสะสมมา โดยที่เขามาบอกว่ามูลค่าตอนนี้ประมาณ 5 บาท ต่อยูโทเคน โดยเค้าก็ได้ซื้อแหวนไปและก็จ่ายเป็นยูโทเคน
ซึ่งหลังจากนั้นก็มียูโทเคนอยู่จำนวนไม่น้อยประมาณ 2 ล้านกว่า ยูโทเคน แต่ปัญหาในตอนนี้คือยูโทเคนมันตกลงไปเหลือแค่ 60-90 สตางค์ ทำให้ขาดทุน ไม่เป็นตามที่เขาบอกไว้ จนเกิดความเสียหาย และตัวผมเองเป็นคนที่ออก youtube เป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อเพศที่สาม เรื่องสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะมีเรื่องอะไรก็จะรายงานให้ประชาชนทราบ ในเมื่อมีเรื่องยูฟันเกิดขึ้น ผมก็มองว่าเป็นเรื่องใหญ่ เป็นเรื่องที่เป็นผลประโยชน์ของประชาชน ของประเทศชาติ ผมก็พูดในรายการเลือกข้างกับเกย์นทีมาโดยตลอด ซึ่งบังเอิญทางตำรวจมองว่ามันมีส่วนที่ทำให้คนบางส่วนที่อยากจะลงเกิดความรู้สึกว่าพอเห็นนทีพูด และนทีลง ก็เกิดการกระตุ้นคน แม้กระทั่งเราพูดเรื่องเกี่ยวกับการเก็บภาษี การเป็นธรรมาภิบาลของบริษัทเอง การไม่เอาสินค้าโอทอปมาขาย ก็กลายเป็นว่าพูดสนับสนุนเขา ซึ่งผมเองก็ต้องไปแก้ต่างในศาล ซึ่งเรารู้อะไรก็อยากให้ประชาชนรู้อย่างนั้น
นายนที กล่าวต่อว่า ทีนี้ตัวผมเองก็มีความกังวล ซึ่งตอนหลังๆ เมื่อยูโทเคนได้ผิดพลาดไป และพอเขาบอกว่าทำไม่ได้ก็จึงหยุดกิจการทุกอย่าง แล้วเดินทางไปเยี่ยมพี่สาวที่ร้อยเอ็ด และไปหาหลานชายที่มุกดาหาร โดยได้นำกระเป๋าไปใบเดียว ส่วนกระเป๋าเสื้อผ้ายังอยู่ที่โรงแรม กะจะไปที่สุวรรณเขตสัก 3-4 ชั่วโมง ไปเดินเที่ยว ก็บังเอิญไปโดนจับที่นั่น และเมื่อเจอกับตำรวจยังมีข้อมูลอีกตั้งเยอะที่ทำให้เรามั่นใจว่าตำรวจมาถูกทิศถูกทาง และตำรวจเองก็มีเมตตามาก ก็อยากฝากไปทางพี่น้องที่ยังหลบหนีอยู่ ว่าให้กลับมาสู้กับความจริง เอาข้อมูลจริงๆให้ตำรวจ เพราะรับรองได้ว่าไม่โหดร้ายอย่างที่เราคิดกัน เพราะบางคนก็ไม่ได้รับการประกันตัวเนื่องจากเป็นแม่ข่ายใหญ่ ซึ่งคนที่ถูกดึงมา ถูกชวนมาถ้าบริสุทธิ์ใจเข้ามาพบตำรวจ รับรองได้ว่าจะได้รับความเป็นธรรมอย่างแน่นอน