ในรอบปีที่ผ่านมา วงการบันเทิงของไทยมีทั้งเรื่องน่ายินดีและสูญเสียเกิดขึ้นมากมาย แต่ก็ดูเหมือนว่าเรื่องรักร้าว ถึงขั้นต้องแยกทางกับสามีของ "เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ" จะเป็นเรื่องที่อยู่ในความสนใจของผู้คนมากที่สุด
ภาพความรักที่หวานชื่น และชีวิตที่หรูหรารายล้อมไปด้วยบอดี้การ์ดราวกับเจ้าหญิงในเทพนิยายของ "เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ" เริ่มถูกตั้งข้อสังเกตจากผู้คนในสังคมว่าอาจจะเป็นเพียงแค่อดีตไปซะแล้ว หลังจากเจนี่ติดแท็ก #bejanie ในอินสตาแกรม และไม่ได้อัพภาพคู่กับ "เอ๋ ชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม" ผู้เป็นสามีเหมือนเก่า ทั้งที่เพิ่งจะจดทะเบียนสมรสกันไปไม่ถึง 1 ปี
หลังจากนั้น ข่าวเตียงหักของนางเอกสาวเจ้าของฉายา "มือฉกตกสวรรค์" ก็ถูกตอกย้ำ ด้วยภาพหญิงสาวเนื้อตัวเขียวช้ำ คล้ายถูกทำร้ายหลุดออกมาในโลกออนไลน์ พร้อมๆกับข่าวลือว่าเจนี่ถูกสามีซ้อมอย่างหนัก ซึ่งทำให้เกิดประเด็นวิพากษ์วิจารณ์เรื่องของการใช้ความรุนแรงในครอบครัวตามมา โดยหลายคนไม่เชื่อว่าเรื่องที่เลวร้ายเช่นนี้จะเกิดขึ้นกับนักแสดงที่มีชื่อเสียงแบบเจนี่ ก่อนที่เจนี่จะเปิดอินสตาแกรมใหม่ ในชื่อ janienineeleven พร้อมลงรูปและข้อความว่า "Begin again..." เหมือนเป็นการเริ่มต้นชีวิตใหม่
และหลังจากที่มีประเด็นให้พูดถึงตลอด 1 เดือนเต็ม โดยไม่มีการออกให้สัมภาษณ์ของทั้งคู่ พร้อมๆกับการกระแสข่าวที่สร้างความสับสนอลหม่านให้ผู้สื่อข่าวสายบันเทิง ในที่สุดเจนี่ก็ออกมายืนยันการยุติความสัมพันธ์ "เอ๋ ชนม์สวัสดิ์" ด้วยการโชว์ใบหย่า พร้อมกลับไปใช้นามสกุล "เทียนโพธิ์สุวรรณ์" ตามเดิม ก่อนจะเดินทางไปพักผ่อนที่สหรัฐอเมริกา โดยไม่มีการแถลงข่าวใดๆ ทิ้งเอาไว้เพียงประเด็นรถ "ปอร์เช่ บ๊อกสเตอร์ 911" ราคากว่า 20 ล้านที่อดีตสามีนำไปใช้ ให้นายประมาณ เลืองวัฒนะวณิช ทนายความส่วนตัวเป็นผู้จัดการ
ในวันที่ 4 กันยายน เจนี่เดินทางกลับมายังประเทศไทย เพื่อบวงสรวงละคร "มาเฟียเลือดมังกร" ในตอน "หงส์" ซึ่งก็เป็นครั้งแรก "เจนี่" ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน หลังจากหย่าร้างกับอดีตสามี โดยเจนี่เปิดเผยทั้งน้ำตาว่า จะขอเดินหน้าทำงานต่อไป พร้อมยืนยันว่า ความสัมพันธ์กับ "เจสัน เบอร์เรนต์" หนุ่มอเมริกันในอินสตาแกรมที่ถูกจับตามองว่าอาจจะเป็นรักครั้งใหม่ เป็นเพียงแค่เพื่อนกันเท่านั้น
อย่างไรก็ตามการกลับมาในครั้งนี้ ก็ดูเหมือนว่าเส้นทางชีวิตของเธอจะไม่สวยงามเหมือนเดิมซะแล้ว เมื่อมีกระแสข่าวออกมาเจนี่ไม่ใช่นักแสดงคิวทองอีกต่อไป ตรงกันข้ามเธอกลับต้องยอมลดค่าตัวในการถ่ายโฆษณาจาก 3 ล้านบาท เหลือเพียงแค่ 2 ล้านบาทเท่านั้น เพื่อให้ได้งาน
แม้ว่าปีที่ผ่านมา เจนี่จะถูกข่าวฉาวและเรื่องร้ายๆถาโถมเข้าใส่อย่างต่อเรื่อง แต่ด้วยประสบการณ์ในวงการบันเทิงกว่า 17 ปี และการมีเพื่อนดีๆอยู่รอบตัวก็ทำให้เธอข้ามผ่านช่วงเวลาที่เลวร้ายมาได้
และก็ดูเหมือนว่า ในปี 2558 ในแง่ของงาน "เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ" จะกลับเป็นแถวหน้าของวงการบันเทิงไทยได้อีกครั้งอย่างแน่นอน จากคิวละครที่เตรียมจะเข้าฉายถึง 3 เรื่องติดต่อกัน