กองทัพเลบานอนปะทะกับกลุ่มมุสลิมหัวรุนแรงในเมืองตริโปลี ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 8 ราย โดยมีการสันนิษฐานว่า กลุ่มติดอาวุธกลุ่มนี้อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มไอเอส กลุ่มซูนนีหัวรุนแรงในอิรักและซีเรีย

    
กองทัพเลบานอนออกมาเปิดเผยว่า เกิดการปะทะกับระหว่างกองทัพเลบานอนกับกลุ่มซุนนีหัวรุนแรง ทางตอนเหนือของเมืองตริโปลี ทำให้มีทหารเสียชีวิตอย่างน้อย 6 นาย บาดเจ็บอีก 13 นาย นอกจากนี้ยังมีพลเรือนเสียชีวิตอีก 2 ราย แม้สื่อท้องถิ่นและเจ้าหน้าที่ความมั่นคงรายงานว่า มีทหารเลบานอนเสียชีวิต 9 นาย แต่กองทัพกล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถยืนยันจำนวนดังกล่าวไม่สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ได้
แถลงการณ์ของกองทัพเลบานอนระบุว่า กลุ่มติดอาวุธถูกล้อมอยู่ในตลาดเก่า และมีการยิงปืนต่อสู้กัน จนกองทัพเข้าปราบปรามกลุ่มติดอาวุธได้สำเร็จ และจับกุมกลุ่มติดอาวุธได้จำนวนหนึ่ง รวมถึงมีการยิดอาวุธปืนและอาวุธสงครามได้อีกจำนวนหนึ่ง

ความรุนแรงในครั้งนี้เริ่มต้นขึ้นหลังจากที่ ทหารเลบานอนสังหารกลุ่มติดอาวุธเสียชีวิต 3 ราย และมีการจับกุมตัวผู้นำท้องถิ่นไปเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา จากนั้น กลุ่มติดอาวุธจึงพุ่งเป้าโจมตีไปที่ทหารตระเวนอยู่ในใจกลางเมืองตริโปลี และยึดตลาดเก่าจนทำให้เกิดการปะทะกันระหว่างทั้งสองฝ่าย 

และในวันเดียวกันนั้นเอง ทางการเลบานอนก็ประกาศไม่รับผู้ลี้ภัยจากสงครามกลางเมืองในซีเรียอีกต่อไปแล้ว หลังจากผู้อพยพลี้ภัยจากสงครามกลางเมืองในซีเรียมาอยู่ในเลบานอน ทำให้เกิดการปะทะกันระหว่างกลุ่มซุนนีและชีอะห์ในเมืองตริโปลีอยู่บ่อยครั้ง 

อย่างไรก็ตาม การปะทะกันครั้งนี้ที่ดำเนินต่อเนื่องมาเป็นวันที่ 2 แล้ว ถือเป็นครั้งแรกที่การปะทะกันลุกลามไปจนถึงตลาดเก่า ซึ่งกำลังยื่นเรื่องต่อยูเนสโกขอขึ้นเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม โดยกองทัพกล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่า กลุ่มติดอาวุธนี้เกี่ยวข้องกับกลุ่มก่อการร้ายกลุ่มใด แต่สันนิษฐานว่า กลุ่มซุนนี้หัวรุนแรงนี้น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มไอเอส กลุ่มซุนนีหัวรุ��แรงในอิรักและซีเรีย

เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เพิ่งมีรายงานว่ากลุ่มไอเอสเริ่มได้รับความนิยมในเมืองตริโปลีของเลบานอน ซึ่งเป็นเมืองที่มีคนที่นับถือศาสนาอิสลามนิกายซุนนีเป็นจำนวนมาก หลังงจากเริ่มมีการปักธงสัญลักษณ์ของกลุ่มไอเอสในเมืองดังกล่าว โดยผู้สนับสนุนกลุ่มไอเอสมองว่า กลุ่มติดอาวุธของซุนนีกลุ่มอื่นๆไม่ประสบความสำเร็จเท่ากับกลุ่มไอเอส 

ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญมองว่า แม้เลบานอนจะยังไม่ใช่เป้าหมายที่กลุ่มไอเอสจะรุกเข้าไป แต่นี่ถือเป็นภัยที่รัฐบาลเลบานอนจะต้องจับตามอง เพราะอาจมีการก่อความวุ่นวายโดยชาวซุนนีในประเทศเองที่มีอยู่ประมาณร้อยละ 27 ของประชากรทั้งหมด