เฟซบุ๊ก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ปิดโหมดไม่ให้เข้ามาแสดงความคิดเห็น โดยมีการปิดตั้งแต่วันที่ 5 พ.ค.ที่ผ่านมา แต่ยังโพสต์ข้อความสื่อสารบนเฟซบุ๊กกับประชาชนมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ทราบถึงความคืบหน้าในการบริหารราชการ โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาสถานการณ์โควิด-19 และเปิดให้แชร์โพสต์ได้ตามปกติ

ส่งผลให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในโลกโซเชียลมีเดียว่านายกฯ ไม่รับฟังความคิดเห็นจากประชาชน และถามหาเหตุผลในการปิดกั้นการเข้ามาแสดงความคิดเห็นดังกล่าว 

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า นายกฯ มีความกังวล เรื่องการบิดเบือนข้อมูลข่าวสารของรัฐบาล ที่ทำให้ประชาชนเกิดความสับสน และมองรัฐบาลในแง่ลบในการบริหารราชการแผ่นดิน จึงได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกระทรวงดิจิตอลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส )และฝ่ายกฎหมายของนายกฯ ติดตามข่าวเท็จ และข่าวปลอม (เฟกนิวส์) ที่ทำให้เกิดผลกระทบต่อการบริหารประเทศ เพื่อดำเนินคดีต่อไป

นอกจากนี้ หลังจากนายอภิวัฒน์ ขันทอง กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะทีมที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมาย เดินทางไปยังสน.นางเลิ้ง เพื่อแจ้งความเอาผิด แอดมินเพจก้าวไกล และนายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์จากกรณีการโพสต์ภาพ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม คู่กับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่ารมช.เกษตรและสหกรณ์ และมีข้อความที่เป็นการหมิ่นประมาทไปเมื่อวันที่ 7 พ.ค.ที่ผ่านมาไปแล้วนั้น

โดยฝ่ายกฎหมายนายกฯ ยังได้ติดตามผู้ที่มาแสดงความคิดเห็นในเฟซบุ๊กของนายกฯ “ Prayut Chan-O-Cha” และพบว่ามีลักษณะหมิ่นสถาบันฯ และใช้ถ้อยคำที่ไม่เหมาะสม จึงเป็นที่มาของการปิดการแสดงความคิดเห็นบน Facebook ของนายกรัฐมนตรี