ไม่พบผลการค้นหา
สมชัย ศรีสุทธิยากร ยืนยัน แก้ปัญหาปากท้องไม่ได้ ถ้าไม่แก้รัฐธรรมนูญ ด้านที่ปรึกษา ครป.ชี้ รัฐธรรมนูญปี 2560 ไม่ได้ดีที่สุด แต่บกพร่องและมีคนต้องการให้แก้ไขมากที่สุด พร้อมระดม 30 องค์กรประชาธิปไตยหาทางแก้ให้ได้

คณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย หรือ ครป. ร่วมกับเครือข่ายภาคประชาชน จัดเสวนาโต้ะกลมและประชุม '30 องค์กรประชาธิปไตยเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ 60' ที่โรงแรมรัตนโกสินทร์ นายสมชาย หอมลออ ที่ปรึกษา ครป. กล่าวว่า ผู้ออกแบบรัฐธรรมนูญปี 2560 ต้องการให้เป็นฉบับถาวรอยู่กับสังคมไทยไปจนชั่วฟ้าดินสลาย เหมือนเป็นฉบับที่ดีที่สุดแล้วโดยไม่ต้องมีการแก้ไขหรือร่างใหม่ แต่เมื่อพิจารณาจริงๆกลับไม่ได้เป็นเช่นนั้น เพราะเป็นรัฐธรรมนูญที่บกพร่องมากที่สุดและมีคนต้องการแก้มากที่สุดด้วย แต่จะเป็นอมตะนิรันดร์กาล เพราะแก้ยากที่สุดนั่นเอง พร้อมเสนอประเด็นที่จะพิจารณาในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ คือ 1.)​ Why หรือทำไมต้องแก้ 2. What จะแก้อะไรบ้าง ซึ่งทั้ง 2 ข้อต้องชี้ให้ภาคส่วนต่างๆในสังคมเห็น และ 3.) ซึ่งสำคัญหรือยากที่สุดคือ how หรือจะแก้อย่างไร ซึ่งต้องช่วยกันขบคิดวิธีการที่สามารถปฏิบัติให้เป็นจริงได้ในการขับเคลื่อน

นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. กล่าวว่า การสื่อสารต่อสังคม ให้เห็นความจำเป็นที่ต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องสำคัญ และยืนยันว่าเกี่ยวข้องกับเรื่องปัญหาปากท้อง เพราะจะแก้ปัญหาปากท้องของประชาชนไม่ได้ ถ้ารัฐธรรมนูญไม่เป็นประชาธิปไตย เนื่องจากฉบับปัจจุบันออกแบบมาให้คนกลุ่มเดียวเท่านั้น ที่จะอยู่ในอำนาจต่อไปได้ โดยไม่สนว่าประชาชนจะเลือกเข้ามาหรือมีความสามารถในการบริหารประเทศหรือไม่ 

นายสมชัย ยืนยันด้วยว่า ทั้งหมดนั้นคือหัวใจที่เป็นปัญหาของรัฐธรรมนูญฉบับนี้ โดยเฉพาะเนื้อหาออกแบบการเลือกตั้งแลดคำนวน ส.ส.ให้เกิดการได้เปรียบเสียเปรียบ, ให้มี ส.ว. ที่แม้กำหนดให้หลากหลายไว้ แต่มีบทเฉพาะกาลให้ คสช.เป็นคนแต่งตั้ง และยังให้อำนาจเลือกนายกรัฐมนตรี ที่ถือเป็นการค้ำจุนอำนาจให้คนกลุ่มเดียวนั่นเอง ตลอดจนต้องได้เสียง ส.ว. 1 ใน 3 ที่เหมือนการปิดตายการแก้ไข 

นายสมชัย ได้ย้ำถึงการเดินหน้าสร้างพลังประชาชน ไม่ว่าอยู่ขั้วหรือมีแนวคิดทางการเมืองใด ที่เห็นถึงความจำเป็น ละต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แม้ว่าจะใช้เวลายาวนาน ไม่ว่าในรัฐสภาชุดนี้หรือชุดใหม่ก็ตาม แม้การแก้รัฐธรรมนูญก่อนการเลือกตั้งครั้งต่อไปก็จะดี เพื่อให้การเลือกตั้งอยู่ภายใต้กติกาใหม่ แต่ส่วนตัวเชื่อว่า การเลือกตั้งครั้งใหม่จะมาเร็ว เพราะรัฐบาลนี้จะอยู่ได้ไม่นานภายใต้กลไกเงื่อนไขและเสถียรภาพที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน

ขณะที่นายเยี่ยมยอด ศรีมันตะ จากกลุ่มสังคมนิยมประชาธิปไตย ในฐานะประธานคณะกรรมการรณรงค์แก้ไขรัฐธรรมนูญ 60 ภาคประชาชน เสนอเบื้องต้นว่า ต้องใช้รัฐธรรมนูญมาตรา 256 เพื่อเปิดทางให้มีการแก้ไขวิธีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ นำสู่การเลือกตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ คล้ายกับการยกร่างฉบับปี 2540 ซึ่งจำเป็นต้องรณรงค์ให้ประชาชนเข้าใจจุดบกพร่องและปัญหาของรัฐธรรมนูญปี 2560 นี้ โดยเบื้องต้นคณะกรรมการได้ตั้งจุดล่ารายชื่อประชาชนให้ครบตามกฎหมายกำหนด แบ่งส่วนประสานงานแล้วทั้ง 5 กลุ่มใน 4 ภาคกับ กทม.และปริมนฑล 

นายเยี่ยมยอด กล่าวด��วยว่า ถึงที่สุดแล้วต้องทำให้ประชาชนเข้าใจถึงประชาธิปไตย ซึ่งไม่ใช่เรื่องเดียวกันกับรัฐธรรมนูญ เพราะการมีเพียงรัฐธรรมนูญ ไม่ได้ชี้วัดความเป็นประชาธิปไตย แต่การกำเนิดรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตย ด้วยความเห็นพ้องต้องกันของคนในสังคม จะเป็นช่องทางในการเปลี่ยนผ่านสังคมสู่ความเป็นประชาธิปไตยด้วยสันติวิธี ดังนั้นการรณรงค์แก้ไขรัฐธรรมนูญ จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องพูดถึงความเป็นประชาธิปไตยในสังคมไทยอย่างเลี่ยงไม่ได้