ไม่พบผลการค้นหา
ประกาศราชกิจจาฯ คำสั่งหัวหน้า คสช. ระงับสรรหา-คัดเลือก 'บอร์ด กสทช.ชุดใหม่' และให้กรรมการอายุครบ 70 ปีที่ต้องพ้นตำแหน่ง ปฏิบัติหน้าต่อไปก่อน จนกว่า ร่าง พ.ร.บ. ฉบับแก้ไขปรับปรุงฉบับใหม่ จะมีผลบังคับใช้

เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 7/2562 เรื่อง มาตรการแก้ไขปัญหาความต่อเนื่องของกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ

ด้วยเหตุว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายว่าด้วยองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ในส่วนที่เกี่ยวกับกระบวนการสรรหาและคัดเลือกบุคคลเพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ซึ่งอยู่ในชั้นการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

ขณะที่ มีความจำเป็นต้องมีความต่อเนื่องในการปฏิบัติหน้าที่ของกรรมการฯ และการสรรหากรรมการดังกล่าวในระหว่างที่การปรับปรุงแก้ไขกฎหมายยังไม่แล้วเสร็จ ก็เป็นเรื่องยุ่งยากและอาจเกิดความเสียหายได้ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติจึงเห็นควรอาศัยอำนาจตามความในข้อ 2 แห่งคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 7/2561 เรื่อง การยกเลิกและระงับกระบวนการสรรหาและคัดเลือกบุคคลเพื่อแต่งตั้งเป็นกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เพื่อมีคำสั่งเป็นอย่างอื่นดังต่อไปนี้ 

1.ให้ระงับการสรรหาและคัดเลือกบุคคลเพื่อแต่งตั้งเป็นกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ไว้ก่อนจนกว่าจะมี พ.ร.บ. องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับประกอบการกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ฉบับแก้ไขเพิ่มเติมในส่วนที่เกี่ยวกับกระบวนการสรรหาและคัดเลือกบุคคล เพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งกรรมการฯ ใช้บังคับ หรือ จนกว่านายกรัฐมนตรีโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น

2.ในกรณีที่กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ พ้นจากตำแหน่งด้วยเหตุอายุครบ 70 ปีบริบูรณ์ ให้กรรมการฯ กรณีดังกล่าว ปฏิบัติหน้าที่ต่อไป จนกว่าจะมี พ.ร.บ. บัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ตามข้อ 1 ใช้บังคับ หรือ จนกว่าจะพ้นจากตำแหน่งเพราะเหตุอื่น

3. ในกรณีที่กรรมการฯ พ้นจากตำแหน่งเพราะเหตุอื่น นอกจากพ้นจากตำแหน่งด้วยเหตุอายุครบ 70 ปีบริบูรณ์ ตามข้อ 2 ให้คณะกรรมการฯ ประกอบด้วย กรรมการฯ เท่าที่เหลืออยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปได้

4. คำสั่งนี้ ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป 

โดยคำสั่งดังกล่าวมีที่มา ตามที่มีคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 1/2561 เรื่อง การยกเลิกและระงับกระบวนการสรรหาและคัดเลือกบุคคลเพื่อแต่งตั้งเป็นกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ลงวันที่ 24 เม.ย. 2561 กำหนดให้กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในวันที่คำสั่งนี้มีผลใช้บังคับ ยังคงดำรงตำแหน่งหรือปฏิบัติหน้าที่ตามที่จำเป็นไปพลางก่อน ตามที่กำหนดในมาตรา 42 แห่งพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2560 โดยในระหว่างนั้น หากกรรมการฯ พ้นจากตำแหน่ง ไม่ว่าด้วยเหตุใด ให้กรรมการฯ ประกอบด้วยกรรมการเท่าที่เหลืออยู่ ทั้งนี้ จนกว่า หัวหน้า คสช. จะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น 

ขณะเดียวกัน ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาแนวทางการแก้ไขปัญหาในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการสรรหาและคัดเลือกบุคคลเพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งกรรมการฯ ให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของกฎหมายที่ต้องการให้ผู้ได้รับการสรรหาและคัดเลือกเป็นผู้ที่มีความรู้ ความสามารถ และมีประสบการณ์ที่เป็นประโยชน์ต่อการปฏิบัติหน้าที่และดำเนินการให้มีการสรรหา และคัดเลือกบุคคลเพื่อแต่งตั้งดังกล่าวโดยเร็วต่อไปนั้น

ทั้งนี้ กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ มีพล.อ.สุกิจ ขมะสุนทร เป็นประธานกรรมการฯ พ.อ. ดร.นที ศุกลรัตน์ เป็นรองประธาน และมีกรรมการ ประกอบด้วย พล.ท. ดร.พีระพงษ์ มานะกิจ, รศ.ประเสริฐ ศีลพิพัฒน์, ผศ. ดร.ธวัชชัย จิตรภาษ์นันท์ และ นพ.ประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา ซึ่งดำรงตำแหน่งตั้งแต่ปี 2557 ถึงปัจจุบัน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :