ไม่พบผลการค้นหา
ทีดีอาร์ไอ แนะ ปรับรูปแบบการจ้างงานเป็นรายชั่วโมง รักษาแรงงานไว้ ขณะผู้หญิงยิ่งมีอายุยิ่งเสี่ยงตกงาน

งานศึกษาล่าสุด ภายใต้ชื่อ ‘ผลกระทบ โควิด-19 ที่มีต่อเศรษฐกิจและการจ้างงาน: กรณีศึกษาแรงงานหญิง’ จากสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศ หรือ ทีดีอาร์ไอ พบสถิติน่ากังวลประเด็น 'การว่างงานแฝง' หรือภาวะที่ไม่ได้ทำงานแม้มีงานประจำ ในประชากรเพศหญิงของประเทศ เพิ่มขึ้นจาก 1.9 แสนคน ช่วงไตรมาส 2/2562 เป็น 1.1 ล้านคน ในไตรมาส 3/2563 คิดเป็นการปรับตัวสูงขึ้น 503.3% 

เมื่อย้อนกลับไปดูตัวเลขการว่างงานในไตรมาสที่สองของปีนี้พบว่า ผู้หญิงว่างงานทั้งสิ้น 3.5 แสนคน หรือคิดเป็น 2.12% ของตัวเลขแรงงานเพศหญิงทั้ง 16 ล้านคนในระบบ คิดเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้น 94.1% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า ขณะที่สถิติว่างงานของเพศชายมากกว่าเล็กน้อยที่ 4.1 แสนคน 

อย่างไรก็ตาม นักวิจัยระบุว่า สาเหตุที่ทำให้แรงงานหญิงมีตัวเลขว่างงานน้อยกว่าผู้ชายไม่ได้มากจากความมั่นคงในหน้าที่การงาน แต่เป็นเพราะอัตราการเข้าสู่ตลาดแรงงานที่ต่ำลง ด้วยเหตุนี้ ชั่วโมงการทำงานรวมของแรงงานหญิงจึงลดลง และส่งผลกระทบโดยตรงต่อรายได้ของแรงงานเหล่านี้ 

เมื่อประเมินความเสี่ยงของการว่างงานในอนาคต นักวิจัยพบว่า หากนำอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจ (จีดีพี) เป็นตัวตั้ง ในปี 2562 ที่จีดีพีของประเทศโต 4% มีตัวเลขผู้ว่างงานเพศหญิงทั้งสิ้น 2.3 แสนคน ด้วยเหตุนี้ หากนำจีดีพี ไตรมาส 2/2563 ที่ติดลบถึง 12.14% มาคำนวณ ผู้หญิงว่างงานจะเพิ่มเป็น 3.3 แสนคน 

ถ้าเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวแบบช้าๆ (L-shaped) และต้องใช้เวลาอย่างน้อย 3 ปี ก่อนจะกลับเข้าสู้ระดับเดียวกับช่วงก่อนเกิดโควิด-19 ตัวเลขบ่งชี้ว่า ในไตรมาส 2/2564 ผู้หญิงในประเทศอาจต้องว่างงานเพิ่มเป็น 3.7 ก่อนลดลงราวๆ 2 หมื่นคน มาอยู่ที่ระดับการว่างงาน 3.5 แสนคน ในไตรมาส 2/2565

วิจัยยังพบว่า อาชีพพนักงานบริการและขายของหน้าร้าน ที่มีสัดส่วนการว่างเงินเพิ่มขึ้นสูงที่สุดถึง 283% ตามมาด้วยอาชีพเสมียน ที่สัดส่วน 241% โดยสัดส่วนอายุมีผลต่อการว่างงานเช่นเดียวกัน ข้อมูลสะท้อนว่า ยิ่งแรงงานหญิงมีอายุมากขึ้นเท่าไหร่ พวกเธอยิ่งมีโอกาสว่างงานมากขึ้นเท่านั้น 

ข้อเสนอสำคัญที่ทีดีอาร์ไอชี้นอกจากการพัฒนาทักษะแรงงาน คือรูปแบบการปรับเปลี่ยนการจ้างงานเป็นรายชั่วโมง เพื่อรักษาคนงานไว้ในระบบให้ได้มากที่สุด และไม่เป็นการสร้างภาระให้กับผู้ประกอบการมากจนเกินไป ทว่าข้อแนะนำดังกล่าวจำเป็นต้องมีการปรับกฎหมายต่างๆ ให้เหมาะสม และอาจต้องใช้เวลาในการดำเนินการ