ไม่พบผลการค้นหา
ความขัดแย้งระหว่าง 'สหรัฐฯ - อิหร่าน' ครั้งนี้ ดูเหมือนจะทำให้ทั้งสองประเทศตกอยู่ในภาวะที่ถูก 'ตีตัวออกห่าง' จากชาติพันธมิตร และประชาชนของทั้งสองประเทศ ต่างก็รู้สึกไม่พอใจรัฐบาลของตัวเอง

ผ่านมาสิบกว่าวันหลังจากที่ พลตรีกัสซิม โซเลมานี วัย 62 ปี ผู้บัญชาการหน่วยรบพิเศษคุดส์สังกัดกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิหร่าน ผู้เป็นนักยุทธศาสตร์คนสำคัญที่สุดของอิหร่าน และเป็นผู้ที่ถือว่าเป็นมือขวาด้านความมั่นคงของ อยาตุลเลาะห์ อาลี อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน ได้ถูกสังหารด้วยโดรนยิงจรวดถล่มหลายลูก ตามคำสั่งของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ขณะที่พลตรีโซเลมานีอยู่ในสนามบินกรุงแบกแดดของอิรัก เมื่อเช้าวันที่ 3 มกราคม ที่ผ่านมา 

สถานการณ์ในช่วงแรกตึงเครียดมาก เพราะหลังจากการตายของพลตรีโซเลมานี อิหร่านแสดงความไม่พอใจด้วยการชักธงสีเลือดบนยอดมัสยิดศักดิ์สิทธิ์จามคารานเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ เพื่อประกาศว่าความตายของพลตรีโซเลมานีถือเป็นความแค้นของชาติ และจะต้องได้รับการแก้แค้น

ส่วนประธานาธิบดีทรัมป์ ตอบโต้ว่าถ้าอิหร่านแก้แค้น เขาจะสั่งยิงถล่มเป้าหมาย 52 จุด ทั้งสถานที่สำคัญของรัฐบาลและสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์และอายธรรมของอิหร่าน ซึ่งปรากฏว่าทั่วโลกต่างวิจารณ์การประการเช่นนี้ของประธานาธิบดีทรัมป์ ว่าการประกาศโจมตีสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์และอารยธรรมเข้าข่ายเป็นอาชญากรสงครามตามกฎหมายระหว่างประเทศ 

ต่อมาในวันที่ 8 มกราคม อิหร่านได้ยิงขีปนาวุธพิสัยใกล้จำนวน 16 ลูก โจมตีฐานทัพของสหรัฐฯ 2 แห่ง ในอิรัก แต่ไม่มีทหารสหรัฐฯ เสียชีวิต ประธานาธิบดีทรัมป์เปิดแถลงอย่างเป็นทางการทันทีว่าสหรัฐฯ จะไม่ใช้การโจมตีทางทหารตอบโต้อิหร่าน แต่จะใช้มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่ออิหร่าน และเรียกร้องให้ชาติต่างๆ ที่เป็นสมาชิกขององค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือหรือนาโต มีบทบาทมากขึ้นในสถานการณ์ความมั่นคงในตะวันออกกลาง 

อย่างไรก็ดี หลังการโจมตีของอิหร่านและการแถลงของประธานาธิบดีทรัมป์ ปรากฏว่าความตึงเครียดของสถานการณ์ไม่ได้ตึงเครียดร้อนแรงถึงขั้นจุดไฟสงครามโลกครั้งใหม่ขึ้นได้โดยง่าย 

ทั้งนี้ เพราะไม่มีใครเอาด้วย ทั้งกับประธานาธิบดีทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ และ กับอยาตุลเลาะห์ อาลี อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน

พันธมิตรที่แนบแน่นที่สุดของสหรัฐฯ ในตะวันออกกลาง คืออิสราเอล แสดงท่าทีเอาตัวออกห่างจากความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯกับอิหร่านอย่างเห็นได้ชัด โดยนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู แห่งอิสราเอล แถลงต่อสื่อมวลชนว่ารัฐบาลอิสราเอลไม่เคยรู้เห็นหรือเห็นดีเห็นงามกับการที่ประธานาธิบดีทรัมป์สั่งสังหารพลตรีโซเลมานี แต่อิสราเอลในฐานะพันธมิตรของสหรัฐฯ พร้อมจะสนับสนุนสหรัฐฯ ก็ต่อเมื่อเป็นการป้องกันตนเอง

เจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมาร แห่งซาอุดีอาระเบีย แถลงแสดงความกังวลต่อการตัดสินใจของสหรัฐฯ ว่าจะทำให้สถานการณ์ในตะวันออกกลางเลวร้ายและตึงเครียดลงอย่างที่สุด แล้วรีบเสด็จไปกรุงวอชิงตันดีซีทันทีพร้อมกับเจ้าชายคาลิด บิน ซัลมาน รัฐมนตรีกลาโหมซึ่งเป็นพระอนุชาของพระองค์ เพื่อหารือกับรัฐบาลสหรัฐฯ 

เอกอัครราชทูตของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ กล่าวว่าชาติพันธมิตรของสหรัฐฯ ในภูมิภาคอ่าวเปอร์เซีย ต่างตกใจต่อการสั่งสังหารครั้งนี้ และวิตกกังวลอย่างยิ่งว่าสถานการณ์ในตะวันออกกลางจะเป็นอย่างไรต่อไป 

นอกจากนี้ พันธมิตรสำคัญของสหรัฐฯ ในยุโรป ต่างแสดงท่าทีไม่พอใจการตัดสินใจของประธานาธิบดีทรัมป์ที่สั่งสังหารพลตรีโซเลมานี

รัฐมนตรีต่างประเทศของฝรั่งเศส กล่าวถึงการสั่งสังหารของประธานาธิบดีทรัมป์ว่า ทำให้ชาวโลกตื่นขึ้นมาในโลกที่อันตรายยิ่งขึ้น เป็นการเพิ่มความตึงเครียดให้โลกโดยไม่จำเป็น 


AFP-อิหร่านคุยภาคี 5 ประเทศเดินหน้ารื้อฟื้นข้อตกลงนิวเคลียร์ 2015 ยุติปัญหายึดเรือ-อับบาส อารักชี.jpg
  • 5 ประเทศที่เป็นภาคีข้อตกลงนิวเคลียร์ส่งตัวแทนคุยกับอิหร่านเมื่อปีที่แล้ว

ประธานคณะกรรมาธิการต่างประเทศของรัฐสภาอังกฤษ กล่าวว่า เป้าหมายของการเป็นพันธมิตรคือการสร้างความประหลาดใจและเกรงกลัวแก่ฝ่ายปรปักษ์ ไม่ใช่การสร้างความประหลาดใจและเกรงกลัวให้แก่บรรดาพันธมิตร อังกฤษรู้สึกประหลาดใจและกังวลใจต่อการตัดสินใจของประธานาธิบดีทรัมป์ 

ในขณะที่ มหาอำนาจอื่น คือ เยอรมนีกับรัสเซีย ถูกจับตาว่าน่าจะเป็นชาติที่มีบทบาทสำคัญอย่างมากในการบรรเทาความตึงเครียดในภูมิภาคตะวันออกกลาง 

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 11 มกราคม อังเกลา แมร์เคล นายกรัฐมนตรีหญิงแห่งเยอรมนีได้เดินทางไปเยือนรัสเซียอย่างเป็นทางการ และได้หารือกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย เกี่ยวกับความตึงเครียดในภูมิภาคตะวันออกกลางหลายเรื่อง ได้แก่ ปัญหาสงครามกลางเมืองในซีเรีย ปัญหาในลิเบีย รวมทั้งปัญหาความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯกับอิหร่านด้วย ซึ่งผู้นำทั้งสองเห็นพ้องต้องกันที่จะรักษาข้อตกลงนิวเคลียร์กับอิหร่าน แม้ว่าสหรัฐฯ ขู่ว่าจะไม่ทำตามข้อตกลงก็ตาม ซึ่งแปลว่าผู้นำทั้งสองไม่สนับสนุนประธานาธิบดีทรัมป์ในการที่จะคว่ำบาตรอิหร่าน 

เมื่อมองไปภายในประเทศของทั้งสหรัฐฯ และ อิหร่าน ก็พบว่ากระแสภายในประเทศออกไปในทางที่ไม่เห็นด้วยกับการเผชิญหน้า และไม่ต้องการให้สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ กับอิหร่านตึงเครียดไปกว่านี้ 

ภายในประเทศสหรัฐฯ รัฐสภาของสหรัฐฯ ต่อว่าประธานาธิบดีทรัมป์ที่ไม่ทำการหารือต่อรัฐสภาก่อนสังหารนายพลของอิหร่าน และยืนกรานให้ประธานาธิบดีทรัมป์อธิบายต่อรัฐสภาโดยเร็ว บรรดานักวิชาการชื่อดังต่างตำหนิการตัดสินใจของประธานาธิบดีทรัมป์ ในขณะที่ผลการสำรวจของรอยเตอร์ส/อิปซอส เผยว่าชาวอเมริกันส่วนใหญ่ตำหนิการตัดสินใจของประธานาธิบดีทรัมป์เพราะมองว่าสร้างความตึงเครียดอย่างหนักระหว่างสหรัฐฯ กับอิหร่าน นอกจากนี้ ชาวอเมริกันยังกังวลใจอย่างมากและไม่ต้องการให้เกิดสงคราม 


โดนัลด์ ทรัมป์.jpg

ส่วนภายในประเทศอิหร่าน แม้ว่าประชาชนจะโกรธแค้นสหรัฐฯ ในวันแรกๆ หลังจากที่พลตรีสุเลมานีถูกสังหาร แต่ปรากฏว่าความรู้สึกของประชาชนเปลี่ยนไปเมื่อเกิดเหตุการณ์ที่เครื่องบินโดยสารของสายการบินยูเครเนียนอินเตอร์เนชั่นแนล สัญชาติยูเครน ถูกกองทัพอิหร่านยิงตก เพราะเข้าใจผิดว่าเป็นขีปนาวุธของสหรัฐฯ ที่ยิงตอบโต้กลับเมื่ออิหร่านเปิดฉากโจมตีฐานทัพของสหรัฐฯในอิรัก เมื่อวันที่ 8 มกราคม ทำให้ลูกเรือและผู้โดยสารเสียชีวิตทั้งหมด 176 คน ซึ่งผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่ถึง 130 คน เป็นชาวอิหร่าน และอีก 63 คนเป็นชาวแคนาดา

เหตุการณ์นี้ทำให้รัฐบาลยูเครนและแคนาดาแสดงความโกรธเคืองอย่างหนักและเรียกร้องให้รัฐบาลอิหร่านรับผิดชอบ ในขณะที่ประชาชนและนักศึกษาชาวอิหร่านชุมนุมประท้วงกลางกรุงเตหะราน ประณามรัฐบาลอิหร่านว่าได้ก่อการสังหารหมู่ครั้งใหญ่ นักศึกษาได้ตะโกนด่ารัฐบาล ฉีกโปสเตอร์ภาพของพลตรีโซเลมานี เรียกร้องให้รัฐบาลชดใช้ความผิดด้วยการนำตัวนายพลจัตวา อามีร์ อาลี ฮาจิซาเดห์ ผู้บัญชาการป้องกันทางอากาศของกองทัพพิทักษ์การปฏิวัติอิหร่านที่รับผิดชอบการสั่งยิงโดยตรงมาลงโทษ และเรียกร้องให้รัฐบาลจ่ายค่าเสียหายให้ครอบครัวของผู้เสียชีวิต 

กล่าวได้ว่า ตอนนี้ ทั้งประธานาธิบดีทรัมป์ และ อยาตุลเลาะห์ อาลี อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน ต่างตกอยู่ในภาวะที่ถูกตีตัวออกห่าง ทั้งจากพันธมิตรต่างชาติ และจากประชาชนในชาติของตัวเอง


AFP ประท้วงในอิหร่าน 110120
  • นักศึกษาอิหร่านประท้วงต่อต้านรัฐบาล หลังกองทัพออกมายอมรับว่ายิงเครื่องบินยูเครนตก

ข่าวที่เกี่ยวข้อง: